ultraformer vs ulthera
October 19, 2022

Prima Lift with MMFU vs Ultherapy

อยากหน้าเล็ก เรียววีเชฟ แต่ไม่อยากไม่อยากร้อยไหม ฉีดอะไรเข้าหน้า ไม่อยากผ่าตัด หนีไม่พ้นโปรแกรมยกกระชับผิวยอดฮิต อย่าง Prima Lift with MMFU และ Ultherapy ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก เรามาดูกันว่า 2 โปรแกรมนี้มีความเหมือน หรือ แตกต่างกันอย่างไร และ เหมาะกับใครบ้างครับ

ความเหมือนกันของทั้งสองโปรแกรมคือ เทคโนโลยีหลักที่ใช้ เป็น คลื่นอัลตร้าซาวด์เข้มข้นสูง (High Intensity Focused Ultrasound) ส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนหรือสร้างเนื้อเยื่อใหม่ใต้ผิวหนัง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นนอก และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้ผิวหนังในชั้น SMAS (สแมซ คือ ชั้นผิวหนังที่หมอศัลยกรรมใช้ผ่าตัดดึงหน้า) หดตัว คล้ายกับการเย็บที่เนื้อ เสมือนการดึงหน้า ให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยไม่มีรอยแผล และ ไม่ต้องพักฟื้นหลังการรักษา

Prima Lift with MMFU พัฒนาต่อยอดจากคลื่นอัลตร้าซาวด์แบบเดิม ๆ โดยมีพลังงาน 2 รูปแบบในเครื่องเดียว คือ Micro และ Macro Focused Ultrasound

  1. Micro Focused Ultrasound (ไมโครโฟกัสอัลตร้าซาวด์)สามารถลงไปใต้ผิวหนังได้ที่ระดับความลึก 1.5 mm. / 3 mm. / 4.5 mm. (ความลึก 4.5 mm. มักจะเป็นชั้น SMAS) ทำให้เกิดการหดตัว บริเวณชั้นผิวที่พลังงานลงไป ช่วยในเรื่องการยกและกระชับผิว
  2. Macro Focused Ultrasound (แมคโครโฟกัสอัลตร้าซาวด์)มีพลังงานสูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่าสามารถลงไปใต้ผิวหนังที่ระดับความลึก 2 mm. / 6 mm. / 9 mm. / 13 mm. ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

Ultherapy ใช้พลังงานแบบเดียวคือ Focused Ultrasound ที่ระดับความลึก 1.5 mm. / 3 mm. / 4.5 mm. ช่วยในการยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่มีหัวยิงพลังงานลิขสิทธิ์เฉพาะของอัลเทอร่า หนึ่งเดียวในโลก เรียกว่า “DeepSEE” เปรียบเสมือนไฟฉายของแพทย์ช่วยส่องลงไปใต้ผิวชั้นลึกที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แล้วสะท้อนขึ้นไปยังหน้าจอเครื่อง ทำให้แพทย์สามารถส่งพลังงานสู่ชั้น SMAS หรือจุดที่มีปัญหาได้อย่างแม่นยำ 100 %

Prima Lift with MMFU จุดเด่น คือ หัวยิงพลังงาน Macro Focused Ultrasound ที่แรงกว่า HIFU ทั่วไปถึง 8 เท่า ช่วยสลายไขมันในส่วนที่ไม่ต้องการ เช่น บริเวณแก้ม เหนียงใต้คาง

Ultherapy จุดเด่นคือ หัว DeepSEE พร้อมหน้าจอแสดงให้เห็นใต้ชั้นผิวแบบเรียลไทม์ จึงได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า และ ยาวนานกว่า รวมไปถึงการผ่านมาตรฐานระดับสากล หรือ Gold Standard ทั้งอเมริกา ยุโรป เอเชีย รวมถึงไทย มีงานวิจัยรองรับถึงผลลัพธ์และความปลอดภัย มีผู้รับบริการมาแล้วกว่า 1.7 ล้านครั้งทั่วโลก

Prima Lift with MMFU เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยและมีริ้วรอยไม่มาก อายุประมาณ 25-35 ปี โดยเฉพาะคนที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าหรือใต้คาง (เหนียง)

Ultherapy เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อย มีเหนียงหรือไขมันส่วนเกินไม่มาก สามารถทำได้ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป โดยช่วงอายุ 25-35 ปี เน้นคงความอ่อนเยาว์ของผิว ส่วนคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไปจะเน้นการดึงผิวที่หย่อนคล้อยและลดริ้วรอย (( คลิกดู อัลเทอร่าช่วยอะไรในแต่ละช่วงวัย ))

prima lift vs ulthera

Prima Lift with MMFU ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนช็อตที่ใช้ เริ่มต้น 300 ช็อต 9,900 บาท สำหรับการยกกระชับแก้ม หรือ ลดเหนียง 

Ultherapy ราคาขึ้นอยู่กับจำนวนไลน์ที่ใช้ เช่น 13,000 บาท สำหรับคนที่ต้องการยกคิ้วตก ยกหางตาตก ส่วนคนที่ต้องการยกกระชับบริเวณอื่น ๆ สามารถเข้ามาให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินจำนวนไลน์ที่จะใช้ โดยไม่มีค่าปรึกษาครับ

Prima Lift with MMFU ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน (ขณะที่การทำ HIFU (ไฮฟู) ทั่วไปจะอยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน)

Ultherapy มีพลังงานที่เสถียรสูงสุด และ ความแม่นยำสูงกว่า ทำครั้งเดียวอยู่ได้นาน 12-24 เดือน

ทั้งนี้ ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิว อายุ การดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ดี นอกจากการเลือกโปรแกรมให้เหมาะสมกับสภาพผิวและงบประมาณของตัวเองแล้ว สิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้ได้ผลลัพธ์อย่างเต็มประสิทธิภาพของเครื่องมือ คือ แพทย์ผู้ทำการรักษา

เดอะ พรีม่า คลินิก เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการปรับรูปหน้าด้วยเครื่องมือยกกระชับทั้ง 2 รูปแบบ ด้วยเทคนิคขั้นสูงสุดที่อบรมกับบริษัทผู้นำเข้าเครื่องมือแพทย์ทั้ง 2 แบบ รวมถึงการพัฒนาเทคนิคใหม่ที่ปรับใช้ภายในคลินิกเอง จากประสบการณ์มากกว่า 1,000 เคส จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตรงจุด เห็นผลชัดเจนครับ

ท่านใดที่สนใจ หรือ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับโปรแกรมไหน สามารถทักแชทหรือโทรเข้ามาให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินจากสภาพผิวจริงก่อนตัดสินใจ โดยไม่มีค่าปรึกษาครับ

Share on facebook
Share on Facebook
Share on twitter
Twitter

สาระความงามที่เกี่ยวข้อง

Leave a comment