โปรแกรม RedGlow ฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์แสงสีแดงรุ่นใหม่ สบายผิว ไม่มีแผล ไม่ต้องแปะยาชา ไม่ต้องพักฟื้น ผิวดูใสเด้ง ฟื้นฟูผิว ลดรอยดำ รอยแดง

เลเซอร์แสงสีแดง (Red Laser) รุ่นใหม่ใน “โปรแกรม RedGlow Laser” ซึ่งเป็นเลเซอร์ที่จำเพาะกับการกระตุ้นคอลลาเจนโดยตรง โดยใช้แสงสีแดงความยาวคลื่น 675 นาโนเมตร ในการรักษาและฟื้นฟูสภาพผิว โดดเด่นที่สามารถปรับความเนียนของผิว เพิ่มความแน่นกระชับของผิว ลดการทำงานของเม็ดสี โดยที่สบายผิว ไม่ต้องใช้ยาชา ไม่มี Downtime ไม่มีบาดแผล และ ไม่ต้องพักหน้าหลังทำ

บทความโดย  นพ. วรุตม์ คุณาฤทธิพล (หมอช้อป)

– ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

-Dermatology Clinical Observership,Jutendo University Hospital , Tokyo

– Fellowship วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

– Board Certified American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine

สารบัญเนื้อหา

จุดเด่นของ โปรแกรม RedGlow Laser คืออะไร ?

ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์แดง 675 ที่สามารถรักษาได้หลากหลายปัญหา เช่น ความเรียบเนียนของผิว ทั้งรูขุมขน เส้นริ้วรอยที่ผิว หลุมสิว ความแน่นกระชับของผิว รวมถึงฝ้า ฝ้าเลือด กระ รอยดำ รอยแดง ความไม่กระจ่างใสของผิว ซึ่งได้ผลใกล้เคียงกับการรักษาด้วย Fractional Laser เช่น Fractional Erbium YAG Laser หรือ Fractional Picosecond Laser แต่มีจุดเด่นอยู่ที่ สบายผิว ไม่ต้องแปะยาชา ไม่มีสะเก็ด ไม่ต้องพักหน้าหลังทำ

กลไกเลเซอร์ ในโปรแกรม RedGlow Laser มีหลักการทำงานอย่างไร ?

โปรแกรม RedGlow มีหลักการทำงานโดยปล่อยแสงเลเซอร์สีแดงที่มีความยาวคลื่น 675 นาโนเมตร (เป็นเลเซอร์เพียงชนิดเดียวที่ส่งผลโดยตรงต่อเส้นใยคอลลาเจน)  ยิงเข้าสู่ชั้นผิวชั้นลึกเพื่อส่งสัญญาณไปที่เส้นใยคอลลาเจน ทำให้เกิดกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินขึ้นมาใหม่ (collagen remodeling) ผิวจึงแน่นกระชับขึ้น ช่วยแก้ปัญหาผิวได้หลายแบบ อาทิ รูขุมขนกระชับขึ้น ผิวเด้งใส ริ้วรอยต่าง ๆ เรียบขึ้น ผิวดูอ่อนเยาว์

นอกจากนี้แสงสีแดงในช่วงความยาวคลื่นนี้ ยังสามารถจับกับเม็ดสี หรือ Melanin รวมถึง Hemoglobin หรือเซลล์เม็ดเลือดแดง ทำให้รอยดำรอยแดงลดลง ลดปัญหา ฝ้ากระ ฝ้าเลือด จุดด่างดำ ผิวหน้าจึงดูกระจ่างใส และดูอ่อนเยาว์อย่างมีประสิทธิภาพ

โปรแกรม RedGlow Laser ช่วยรักษาอะไรได้บ้าง ?

โปรแกรม RedGlow เป็นหัตถการที่เน้นการกระตุ้น ฟื้นฟู และปรับปรุงสภาพผิว ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย ดังนี้

  • หวังผลในเรื่องเม็ดสีและสีผิวสม่ำเสมอ 
    • ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
    • ลดสีผิวไม่สม่ำเสมอจากแสงแดดทำลาย
    • เพิ่มความขาวกระจ่างใของผิว
    • ลดฝ้า ฝ้าเลือด กระ
  • หวังผลในเรื่องความเรียบเนียน 
    • ลดรูขุมขนกว้าง
    • ลดหลุมสิว
    • เส้นริ้วรอยที่ผิว (Fine line หรือ Static Line)
    • เพิ่มความเรียบเนียนอ่อนเยาว์ให้ผิว 
    • ลดรอยแผลเป็น ลดรอยแตกลาย
  • หวังผลในเรื่องความกระชับ 
    • เพิ่มความยืดหยุ่น
    • เพิ่มความความกระชับให้ผิว
    • เพิ่มคอลลาเจนที่ผิว

รีวิวการรักษาด้วยเลเซอร์แดง 675 nm.

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย ปรับปรุงคุณภาพผิว

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย ปรับปรุงคุณภาพผิว

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) รักษาหลุมสิว

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ริมฝีปาก

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดริ้วรอย ปรับปรุงคุณภาพผิว

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดฝ้า

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดฝ้า

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดฝ้า

รีวิว เลเซอร์แดง (Red Light Pro Laser) ลดฝ้า

โปรแกรม RedGlow Laser แตกต่างจาก Picosecond Laser หรือเลเซอร์ชนิดอื่น อย่างไร?

ใครที่เหมาะจะทำโปรแกรม RedGlow Laser ?

  1. ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวหนังแข็งแรง  (Collagen Remodeling)  เพิ่มควาหนาของผิว ให้แน่นฟู เรียบเนียน ยืดหยุ่นและ ไม่ต้องการพักหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ

  2. ผู้ที่ต้องการกระชับรูขุมขนที่กว้าง ให้ดูเรียบเนียน (Reduce Pore Size) และ ไม่ต้องการพักหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ

  3. ผู้ที่ต้องการปรับความเรียบเนียนของผิว (Texture)  ลดเลือนริ้วรอย (Wrinkles)และ ไม่ต้องการพักหน้า สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ

  4. ผู้ที่ต้องการรักษาผิวหมองคล้ำที่ใบหน้า ต้องการผิวกระจ่างขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น ดูมีออร่า (Skin Revitalization) ตื่นเช้ามาดูสดใสทันที (Wake up confident)

  5. ผู้ที่ต้องการรักษารอยดำบริเวณใบหน้า, แขน, หลังมือ หรือตามลำตัว (Pigmented lesions)

  6. ผู้ที่องการรักษารอยโรคสีดำ เช่น ฝ้า (Melasma) , ฝ้าเลือด

  7. ผู้ที่ต้องการกระตุ้นคอลลาเจนที่ริมฝีปากให้อิ่มฟู และ สบายผิว ไม่ต้องพักฟื้น

  8. ผู้ที่ต้องการรักษาหลุมสิว (Acne Scars) โดยไม่อยากรับการรักษาที่มีสะเก็ดหรือดูแลตัวเองยาก

  9. ผู้ที่ต้องการรักษารอยแตกลาย  (Stretch Marks)

  10. ผู้ที่มีปัญหาบริเวณลำตัว เช่น มือ คอ เนินหน้าอก ที่มีริ้วรอยหรือจุดด่างดำตามอายุ หรือต้องการความแน่นกระชับ ต้องการเลเซอร์ที่ดูแลง่าย เพราะ โปรแกรม ReTouch ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใหม่ได้ และลดรอยดำ ได้โดยไม่มีบาดแผล

  11. ผู้ที่ต้องการ maintain ดูแลผิวจากการรักษาประเภทอื่น ระหว่างปี แต่ไม่ต้องการความเจ็บ ไม่ต้องพักฟื้น

ใครที่ไม่เหมาะที่จะทำ โปรแกรม RedGlow Laser ?

  1. ผู้ที่ตั้งครรภ์
  2. ผู้ที่มีอาการของโรคเริม (Herpes) ความร้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการทำการรักษาสามารถกระตุ้นรอยโรคได้ แนะนำให้รับประทานยาต้านไวรัส (antiviral) ก่อนเข้ารับการรักษา
  3. ผู้ที่มีแผลติดเชื้อ
  4. ผู้ที่มีแผลเปิด แนะนำให้ทำการรักษาได้เฉพาะในบริเวณที่ผิวแข็งแรง
  5. ผู้ที่มีประวัติของโรคลมชักที่สามารถกระตุ้นได้ด้วยแสง

โปรแกรม RedGlow Laser มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?

ข้อดีของการทำ โปรแกรม Red Glow คือไม่มีแผล และ ไม่ต้องพักหน้า  

เลเซอร์มีความอ่อนโยน ปลอดภัย และไม่ทำร้ายผิว ไม่แสบร้อนหน้า สบายผิว ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น หลังทำสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ  อาการข้างเคียงหลังทำที่สามารถเกิดขึ้นได้คือ

  • ผิวแห้งลง ลอกเป็นขุยเล็กน้อยในช่วง 3-7 วัน แนะนำทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นควบคู่
  • ผิวอาจไวต่อแสงแดดในช่วง 1 สัปดาห์แรก แนะนำให้หลีกเลี่ยงแดดจัด 1-2 สัปดาห์

ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นเรื่องปกติและจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์

โปรแกรม RedGlow Laser ใช้เวลารักษานานหรือไม่ ?

ใช้เวลาในการทำไม่นานครับ เลเซอร์แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที หากรวมกระบวนการรักษาเสริมอื่น ๆ (เฉพาะที่ เดอะ พรีม่า คลินิก) จะอยู่ที่ประมาณ 45-60 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาผิวของแต่ละบุคคล)

โปรแกรม RedGlow Laser เห็นผลเมื่อไหร่ อยู่ได้นานแค่ไหน ?

  • ค่อยๆเห็นผลหลังทำการรักษาประมาณ 3-4 สัปดาห์ แต่สามารถสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำครับ
  • แต่ละครั้งที่ทำผลลัพธ์จะค่อยๆดีขึ้นและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับ
  • จะค่อยๆเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องภายใน 60 – 90 วัน เนื่องจากร่างกายมีการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เพื่อกระตุ้นเส้นใยอีลาสติน  ฟื้นฟูให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่จากร่างกายของเราเอง
  • เพื่อผลการรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ทำอย่างน้อย ปีละ 5-6 ครั้งครับ  (*ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นกับแต่ละบุคคล)

โปรแกรม RedGlow Laser ต้องทำกี่ครั้ง จึงจะเห็นผล ?

  • จะรู้สึกถึงความแตกต่างได้ตั้งแต่การรักษาครั้งแรก
  • หากต้องการเพิ่มความกระจ่างใส แนะนำทำประมาณ 1-2 ครั้ง
  • หากต้องการลดริ้วรอย แนะนำทำประมาณ 3-4 ครั้ง
  • หากต้องการรักษาฝ้า แนะนำทำประมาณ 3-4 ครั้ง ขึ้นไป
  • สามารถทำเพื่อ maintain ดูแลผิวจากการรักษาประเภทอื่น ระหว่างปีได้เช่นกันครับ

อาจใช้จำนวนครั้งในการทำแตกต่างกันเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน เนื่องจากแต่ละคนมีปัญหาผิวที่รุนแรงต่างกัน แนะนำให้แพทย์ช่วยประเมินอีกครั้งครับ

โปรแกรม RedGlow Laser ควรเว้นระยะในการรักษาแต่ละครั้งนานเท่าไหร่ ?

เป็นเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องทำบ่อย แค่เดือนละ 1 ครั้งก็เพียงพอครับ

โปรแกรม RedGlow Laser ปลอดภัยหรือไม่ ทำแล้วหน้าจะบางหรือไม่ ?

โปรแกรม RedGlow ไม่ทำให้ผิวหน้าบางลงครับ เพราะเลเซอร์ชนิดนี้เป็นเทคโนโลยีจำเพาะที่ปล่อยความยาวคลื่น 675 นาโนเมตร คลื่นแสงนี้จะลงไปจับกับเส้นใยคอลลาเจนที่ใต้ชั้นผิวโดยตรง และมีระบบความเย็นที่หัวยิง เพื่อช่วยป้องการการเบิร์นที่ผิวในขณะทำการรักษาไม่มีการทำลายเนื้อเยื่อ โดยไม่มีการถลอกผิวชั้นบน  แต่กลับจะยิ่งทำให้คอลลาเจนที่ผิวแข็งแรงขึ้นด้วยซ้ำครับ

ความรู้สึกขณะทำ โปรแกรม RedGlow Laser เจ็บหรือไม่ ?

เป็นโปรแกรมที่สบายผิว ระดับความเจ็บน้อยครับ (จากประสบการณ์รักษาที่ เดอะ พรีม่า คลินิก คนไข้ส่วนใหญ่ให้ระดับ 0-2 เต็ม 10) จึงไม่จำเป็นต้องทายาชา

ขณะทำการรักษา จะมีการทาเจลเย็น ร่วมกับหัวเลเซอร์มีการปล่อยความเย็นอยู่แล้ว บริเวณผิวที่ทำการรักษาจะเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูเล็กน้อย รู้สึกสบายผิว รู้สึกอุ่นๆที่ผิว แต่บริเวณที่มีเม็ดสีผิดปกติอาจรู้สึกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยครับ

โปรแกรม RedGlow Laser สามารถทำคู่หัตถการอื่นได้หรือไม่?

สามารถทำได้ครับ  โปรแกรม RedGlow เป็นหัตถการที่เน้นการกระตุ้น ฟื้นฟู และปรับปรุงสภาพผิว ทำให้ช่วยแก้ปัญหาผิวได้อย่างหลากหลาย สามารถใช้เพื่อทดแทนหรือใช้ร่วมด้วยกันกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid 

รวมถึงสามารถรักษาร่วมกับหัตถการต่างๆ เช่น โปรแกรม Ultherapy, Therma FLX+, Reset ผิว Young ,  Skin Sculpting Solution , Picosecond laser , Fractora Pro รักษาหลุมสิว เพื่อหวังผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นได้อีก เป็นต้น

ทั้งนี้ ควรให้แพทย์ช่วยวางแผนการรักษาแต่ละหัตถการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นครับ

คำแนะนำก่อนการทำโปรแกรม RedGlow Laser

  1. งดทาครีมกลุ่มผลัดเซลล์ผิว ได้แก่ กลุ่มเรตินอล (Retinol), วิตามินเอ (Vit A), AHA BHA, Salicylic Acid อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  2. ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหรือโดนแดดจัดมาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา รวมถึงการอบผิวจากหลอด UV
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ เช่น การกำจัดขน การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี เป็นต้น อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา
  4. ทำความสะอาดผิว เช็ดทำความสะอาด โกนขนในบริเวณที่ต้องการทำการรักษาให้เรียบร้อยล่วงหน้า 1-2 วัน
  5. หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยาต่างๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทำเลเซอร์
  6. ในวันที่นัดทำเลเซอร์ควรงดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว หรือสเปรย์ฉีดผม ณ บริเวณผิวหนังส่วนที่จะทำเลเซอร์ 

คำแนะนำหลังทำโปรแกรม RedGlow Laser

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัด ๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
  2. แนะนำให้ทาครีมชุ่มชื้น หรือ มอยส์เจอไรเซอร์สม่ำเสมอทุกเช้า-เย็น เพื่อลดอาการหน้าแห้ง หน้าลอก หรือ คัน
  3. ทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกัน UVA/UVB SPF 50+ ขึ้นไป แม้อยู่ในที่ร่ม
  4. หากทำการรักษาความผิดปกติของเม็ดสี (สีน้ำตาล/ดำ) รอยโรคจะมีสีเข้มขึ้นภายใน 24 – 48 ชั่วโมง
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ tretinoin, retinol, benzoyl peroxide, glycolic/salicylic acids, astringents เป็นต้น อย่างน้อย 2 – 3 วันหลังเข้ารับการรักษา
  6. ถ้าบริเวณแผลเกิดเป็นผื่นบวม แดง มีตุ่มหนอง มีอาการปวด หรือคันมาก ให้มาพบแพทย์ทันที

โปรแกรม RedGlow Laser ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก ศรีราชา แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ?

  1. เลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่มีงานวิจัยรองรับ งานวิจัยต้องได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติว่ามีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย และให้ผลการรักษาที่ดี
  2. ใช้เครื่องเลเซอร์ และ เครื่องมือเสริมอื่น ๆ ที่ได้มาตรฐาน สั่งตรงจากผู้ถือลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดยเฉพาะ
  3. ไม่ได้ทำแค่เลเซอร์อย่างเดียว แต่บูรณาการรักษาตั้งแต่การวิเคราะห์ผิว การเตรียมผิว การเลเซอร์ การดูแลหลังเลเซอร์ ให้เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เน้นที่ผลลัพธ์ ไม่เลี้ยงไข้
  4. ไม่เสนอขายเกินจำเป็น เน้นการรักษาที่ต้นเหตุ ตรงกับปัญหาและความกังวลของคนไข้ ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา ตามหลักการแพทย์
  5. มีทีมผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษา ดูแลติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
  6. มาแล้วสบายใจ ไม่มีเซลล์กดดัน ยัดเยียดขาย
  7. หมออยู่ประจำทุกวัน ไม่ต้องลุ้นต้องรอวันหมอเข้า
  8. หมอมีประสบการณ์ใช้เครื่องเลเซอร์มาอย่างต่อเนื่องทุกวัน ออกแบบเทคนิคการยิงให้เหมาะกับสภาพผิวแต่ละราย

ท่านใดที่สนใจ หรือ ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับโปรแกรม RedGlow หรือไม่ ก็สามารถทักไลน์ที่ปุ่มด้านล่างนี้เพื่อปรึกษาก่อนตัดสินใจได้ครับ

Share on facebook
Share on Facebook
Share on twitter
Twitter

แนะนำโปรแกรมรักษาที่เกี่ยวข้อง

Pico Duo Laser เลเซอร์ลดเม็ดสี ฟื้นฟูหลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน

-click-

ResetผิวYoung ฉีดสารสร้างเส้นใยตาข่ายผิวใหม่

-click-

Skin Sculpting Solution แก้ปัญหาผิวหนังเสื่อมสภาพตามวัย

-click-

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก

  1. Magni G, Pieri L, Fusco I, Madeddu F, Zingoni T, Rossi F. Laser emission at 675 nm: In vitro study evidence of a promising role in skin rejuvenation. Regen Ther. 2023 Feb 14;22:176-180. doi: 10.1016/j.reth.2023.01.007. PMID: 36819611; PMCID: PMC9930151.
  2. Cannarozzo G, Silvestri M, Tamburi F, Sicilia C, Del Duca E, Scali E, Bennardo L, Nisticò SP. A new 675-nm laser device in the treatment of acne scars: an observational study. Lasers Med Sci. 2021 Feb;36(1):227-231. doi: 10.1007/s10103-020-03063-6. Epub 2020 Jun 13. PMID: 32533470.
  3. Cannarozzo G, Fazia G, Bennardo L, Tamburi F, Amoruso GF, Del Duca E, Nisticò SP. A New 675 nm Laser Device in the Treatment of Facial Aging: A Prospective Observational Study. Photobiomodul Photomed Laser Surg. 2021 Feb;39(2):118-122. doi: 10.1089/photob.2020.4908. Epub 2021 Jan 15. PMID: 33449869.
  4. Bonan P, Verdelli A, Pieri L, Fusco I. Could 675-nm Laser Treatment Be Effective for Facial Melasma Even in Darker Phototype? Photobiomodul Photomed Laser Surg. 2021 Oct;39(10):634-636. doi: 10.1089/photob.2021.0076. Epub 2021 Sep 30. PMID: 34597175.
  5. Cannarozzo G, Bennardo L, Zingoni T, Pieri L, Duca ED, Nisticò SP. Histological Skin Changes After Treatment with 675 nm Laser. Photobiomodul Photomed Laser Surg. 2021 Sep;39(9):617-621. doi: 10.1089/photob.2020.4927. Epub 2021 May 25. PMID: 34115944.
  6. Verdelli A, Bonan P, Fusco I, Madeddu F, Piccolo D. Striae Distensae: Clinical Results and Evidence-Based Evaluation of a Novel 675 nm Laser Wavelength. Medicina (Kaunas). 2023 Apr 26;59(5):841. doi: 10.3390/medicina59050841. PMID: 37241073; PMCID: PMC10222465.
  7. Bonan P, Verdelli A, Pieri L, Fusco I, Linpiyawan R. Facial rejuvenation: A safe and effective treatment with a fractional non-ablative 675 nm laser in Asian population. J Cosmet Dermatol. 2021 Dec;20(12):4070-4072. doi: 10.1111/jocd.14529. Epub 2021 Oct 16. PMID: 34655459.
  8. Chandrashekar BS, Lobo OC, Fusco I, Madeddu F, Zingoni T. Effectiveness of 675-nm Wavelength Laser Therapy in the Treatment of Androgenetic Alopecia Among Indian Patients: Clinical Experimental Study. JMIR Dermatol. 2024 Sep 23;7:e60858. doi: 10.2196/60858. PMID: 39312769; PMCID: PMC11459112.
  9. Sorbellini E, Fusco I, Madeddu F, Libra M. Experience of Novelty Laser Therapy Emission with 675 nm Wavelength for the Treatment of Androgenetic Alopecia in Male and Female Patients: A Case Series Study. Photobiomodul Photomed Laser Surg. 2023 Jun;41(6):265-271. doi: 10.1089/photob.2022.0162. Epub 2023 May 26. PMID: 37252772.
  10. Pamela RD, Vitale MD, Fusco I, Zingoni T, Yi KH. Experience using 675 nm laser on three cases of Fitzpatrick skin type IV-V with melasma. Skin Res Technol. 2024 May;30(5):e13748. doi: 10.1111/srt.13748. PMID: 38766988; PMCID: PMC11103554.