Fratora Pro นวัตกรรมเกลี่ยหลุมสิว สร้างคอลลาเจนใหม่ เผยผิวเนียนใส
#รักษาหลุมสิวชลบุรี #รักษาหลุมสิวบางแสน #รักษาหลุมสิวพัทยา #รักษาหลุมสิวศรีราชา #รักษาหลุมสิวระยอง #รักษาหลุมสิวปราจีนบุรี #รักษาหลุมสิวจันทบุรี #รักษาหลุมสิวฉะเชิงเทรา #รักษาหลุมสิวที่ไหนดี #คลินิกรักษาหลุมสิว
Fractora Pro (แฟรกทอร่า โปร) โปรแกรมรักษาใหม่ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก เป็นการรักษาโดยแพทย์ เพื่อช่วยรักษาปัญหาผิวเสื่อมสภาพ เช่น รอยแผลเป็น รอยหลุมสิว ผิวหย่อนคล้อย ความผิดปกติของเม็ดสี ความผิดปกติของเส้นเลือด ริ้วรอย หรือ skin rejuvenation
บทความโดย นพ. วรุตม์ คุณาฤทธิพล (หมอช้อป)
– ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
-Dermatology Clinical Observership,Jutendo University Hospital , Tokyo
– Fellowship วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
– Board Certified American Board of Anti-Aging and Regenerative Medicine
สารบัญเนื้อหา
FRACTORA PRO มีหลักการทำงานอย่างไร ?
FRACTORA PRO (แฟรกทอร่า โปร) ใช้หลักการที่เรียกว่า RF Microneedling หรือ Microneedle RF เป็นการใช้เข็มและปล่อยความร้อนลงใต้ผิวในเวลาเดียวกัน พร้อมส่งผ่านพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency: RF) ผ่าน pins ของ FRACTORA PRO เพื่อก่อให้เกิด 3 กระบวนการพร้อมกันในคราวเดียว นั่นคือ ablation (สีดำ), coagulation (สีขาว) และ sub-necrotic heating (สีแดง) ดังรูป
การรักษาที่ได้จะเหมือนกับการรักษาด้วย Fractional CO2 ร่วมกับการใช้ non–ablative และ non–coagulative dermal heating ซึ่งช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างในคราวเดียวกัน ได้แก่ ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย ความเรียบเนียนของผิว รอยแผลเป็น แต่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้ non-ablative และ non-coagulative dermal heating เพียงกระบวนการเดียว
FRACTORA PRO handpiece ได้ถูกออกแบบให้มีการส่งผ่านพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ bipolar ผ่าน pins ทำให้เกิดการถลอก (ablation) ที่ผิวซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการผลัดเซลล์ผิวโดย Coverage area (Treated areas) นั้นน้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับพื้นที่ที่ทำการรักษา 100% ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการรักษาแค่ Fractional ablation เท่านั้นแต่ยังส่งเสริมกระบวนการ non-ablative และ non-coagulative dermal matrix heating ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ร่วมกับการจัดเรียงคอลลาเจนที่ผิวใหม่ ส่งผลให้คุณภาพผิวดีขึ้น ริ้วรอยลดลง ผิวแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้นนั่นเอง
โดยแพทย์ผู้ทำการรักษาจะมีการประเมินค่าพลังงานที่ปล่อยผ่าน pins ให้เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของคนไข้แต่ละราย
FRACTORA PRO ช่วยปัญหาเรื่องใด เหมาะกับใครบ้าง ?
ความโดดเด่นของผลลัพธ์หลังทำ Fractora Pro (แฟรกทอร่า โปร) จะมีด้วยกัน 3 ด้าน คือ
- ลดเลือนริ้วรอย (fine lines and wrinkles)
- รักษาแผลเป็นและผิวที่ไม่เรียบเนียน (scars and skin irregularities)
- แผลเป็นหลุมสิว (Acne scar)
ภาพตัวอย่างผลการรักษาด้วย FRACTORA (รีวิว)
FRACTORA PRO ไม่เหมาะกับใคร ?
- อีลาสตินของผิวเสื่อมสภาพรุนแรง มีการตอบสนองของเชลล์ fibroblast & elastin ไม่ดี
- มีปัญหาสุขภาพจิต
- มีโรคทางระบบประสาทสัมผัสในการรับรู้ที่ไม่ดีนัก
- คนไข้โรคเบาหวาน (ที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้) โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคเริม หรือ โรคลมชัก
- ผู้ที่มีโรคทางผิวหนังกำเริบอยู่ เช่น แผลกดทับ สะเก็ดเงิน ผื่น กลาก เป็นต้น
- คนไข้ที่มีรอยสักในบริเวณที่ต้องการรักษา เช่น สักคิ้ว ขอบตา ริมฝีปากถาวร
- คนไข้ที่ติดเครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ หรือมีโลหะภายในร่างกาย (Pacemaker, ICD, or Electronic implanted device, น๊อตในร่างกาย เป็นต้น)
- ผู้ที่เป็นมะเร็งผิวหนังหรือมีประวัติเคยเป็นมะเร็งผิวหนัง
- ผู้ที่ตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตรอยู่
- ผู้ที่มีประวัติการเกิด keloid หรือ แผลเป็นนูน ความผิดปรกติของการซ่อมแซมผิว
- ผู้ที่มีผิวแห้งมาก และ ผิวบาง
- ผู้ที่มีการผ่าตัดบริเวณใบหน้าน้อยกว่า 1 ปี ก่อนทำการรักษา
ผู้ที่สามารถทำ FRACTORA PRO แต่ต้องระวังเป็นพิเศษ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำ ?
- มีประวัติการใช้ยากลุ่ม NSAIDS หรือ corticosteroids มานาน ควรหยุดยาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนและหลังทำการรักษา
- ผู้ที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือหากมีการใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดต้องหยุดใช้ยา 10 วันก่อนการรักษา
- ผู้ที่เคยทำการรักษาด้วย IPL Laser และ RF ควรเว้นระยะห่างก่อนทำการรักษาอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
- ผู้ที่พึ่งโดนแสงแดดจัด และ มีผิวคล้ำแดด ควรเว้นการโดนแสงแดดจัดก่อนทำการรักษาประมาณ 2 สัปดาห์
FRACTORA PRO เตรียมตัวก่อนทำการรักษาอย่างไร ?
- ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งหรือโดนแดดจัดมาอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการแพ้ เช่น การกำจัดขน การผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี การใช้ครีมกลุ่มวิตามินเอ AHA BHA เป็นต้น อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนทำการรักษา
- โกนขนในบริเวณที่ต้องการทำการรักษาให้เรียบร้อยล่วงหน้า 1-2 วัน
- ในวันที่นัดทำการรักษาควรงดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ณ บริเวณผิวหนังส่วนที่จะทำการรักษา
- หากผู้เข้ารับการรักษาทานยากลุ่มต้านการแข็งตัวของเลือด ให้ปรึกษาแพทย์ประจําตัวก่อนเข้ารับการรักษา
ขั้นตอนการรักษา FRACTORA PRO ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก
- หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยาต่างๆ โดยเฉพาะยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการรักษา
- ผู้ที่มีประวัติโรคเริม ให้แจ้งแพทย์ก่อนทำการรักษา
- ทำความสะอาดผิว เช็ดทำความสะอาด
- ทายาชาประมาณ 45-60 นาที
- แพทย์ทำการรักษาด้วย Fractora Pro ประมาณ 30-60 นาที
FRACTORA PRO ใช้เวลาในการรักษานานเท่าไร ?
ใช้เวลาการรักษานานประมาณ 1-2 ชั่วโมงครับ
FRACTORA PRO ความรู้สึกขณะทำเป็นอย่างไร เจ็บหรือไม่ ?
ขณะทำการรักษาความรู้สึกจะร้อนๆ อุ่นๆ ในขณะที่ทำการรักษา แต่สามารถทนได้ครับ
FRACTORA PRO หลังการรักษามีอาการอย่างไรบ้าง ?
- หลังทำทันทีจะมีอาการแดงเรื่อๆ น้อยกว่า 24 ชม.
- อาการเจ็บผิวหรือไม่สุขสบายอาจเกิดขึ้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง และค่อยๆหายไปได้เอง
- มีอาการบวมเล็กน้อย ประมาณ 2-3 วัน อาการเหล่านี้จะหายกลับมาปกติได้เองครับ
- อาจรู้สึกยิบๆได้บนผิว (สามารถหายได้เองประมาณ 5-7 วัน)
- อาจพบจุดรอยเข็มแดงเล็กๆ (สามารถหายได้เองประมาณ 5-7 วัน)
FRACTORA PRO หลังการรักษาดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง ?
- ไม่ให้แผลบริเวณที่ทำการรักษาโดนน้ำ 24 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจัดๆ 1-2 สัปดาห์
- ทาครีมชุ่มชื้นและทาครีมกันแดดที่สามารถป้องกัน UVA/UVB SPF 30 ขึ้นไป ติดต่อกัน 4 สัปดาห์
- หากมีสะเก็ด ห้ามถู แกะหรือเกาบริเวณที่ทำการรักษา ปล่อยให้หลุดเองตามธรรมชาติ รวมถึงเลี่ยงการเล่นกีฬาที่อาจเกิดแรงปะทะหรือการเสียดสีบริเวณที่รักษา
- สามารถแต่งหน้าทับสะเก็ดได้ >> แนะนำประมาณวันที่ 2-3 เป็นต้นไปหลังการรักษา
- สะเก็ดบริเวณใบหน้า สำหรับคนผิวมัน >> อาจเห็นสะเก็ดเคลือบผิวประมาณ 3-5 วัน
- สะเก็ดบริเวณใบหน้า สำหรับคนผิวแห้ง >> อาจเห็นสะเก็ดเคลือบผิวประมาณ 7-10 วัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่กระตุ้นให้เกิดการระคายเคือง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ tretinoin, retinol, benzoyl peroxide, glycolic/salicylic acids, astringents เป็นต้น อย่างน้อย 5-7 วันหลังเข้ารับการรักษา
- ควรทาครีมปฏิชีวนะหรือขี้ผึ้งวาสลินบริเวณแผลตามคำสั่งแพทย์
- ถ้าบริเวณแผลเกิดเป็นผื่นบวม แดง มีตุ่มหนอง มีอาการปวด หรือคันมาก ให้มาพบแพทย์ทันที
FRACTORA PRO ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ควรรักษาบ่อยแค่ไหน ระยะเวลาในการเห็นผล ต้องทำกี่ครั้ง และเห็นผลทันทีเลยหรือไม่ ?
– จะค่อยๆเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องภายใน 60 – 90 วัน เนื่องจากร่างกายมีการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เพื่อกระตุ้นเส้นใยอีลาสติน ฟื้นฟูให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่จากร่างกายของเราเองจึงมีความปลอดภัย
-ให้ผลสูงสุดหลังจากการรักษาในสัปดาห์ที่ 6-12 ต่อ 1 ครั้ง
-กระบวนการซ่อมแซมผิวใหม่นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละรายครับ เช่น อายุ โรคประจำตัว ความรุนแรงของหลุมสิวและริ้วรอย ระยะเวลาที่เป็นหลุมสิว เป็นต้น
-เพื่อผลการรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ทำการรักษา 5-6 ครั้ง ห่างกันทุกๆ 4-6 สัปดาห์ (ขึ้นกับระดับความลึกของหลุมสิว แนะนำให้แพทย์ประเมินอีกครั้งครับ)
FRACTORA PRO ปลอดภัยหรือไม่ ?
ปลอดภัยสูงมากครับ โดยได้รับการยอมรับจากแพทย์ทั่วโลก ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาในการรักษาหลุมสิว (U.S.FDA approved) และ ประเทศไทย โดยตรง
นอกจากนี้ FRACTORA PRO ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้ได้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีเฉดสีผิวเข้มได้
FRACTORA PRO ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก แตกต่างอย่างไร ?
- ออกแบบการรักษาแบบเฉพาะบุคคล ไม่เลี้ยงไข้ เห็นผลจริงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
- หมอเป็นคนทำเองทุกเคส มีประสบการณ์รักษาหลุมสิวด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ Microneedle, ซับซิชั่นหลุมสิว, Picosecond Laser มามากกว่า 10,000 เคส
- หมอเข้าทุกวัน มีทีมงานติดตามผลการรักษาต่อเนื่อง ไม่ทิ้งเคส
- ไม่ใช้หมอเวียน จึงมีความต่อเนื่องการรักษา
- พนักงานไม่มีการยัดเยียดขายคอร์ส ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา
- รีวิวแน่น เห็นผลจริง คนไข้บอกต่อมากที่สุด ราคาคุ้มค่ากับผลลัพธ์
หากยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการรักษาโปรแกรม Fractora Pro หรือไม่ สามารถทักแชทหรือโทรนัดคิวเข้ามาปรึกษาที่คลินิกก่อนตัดสินใจได้ครับ หรือสอบถามรายละเอียด ราคาและโปรโมชั่นได้ทางไลน์ @theprimaclinic (มี @ ข้างหน้าด้วยนะครับ) หรือ คลิกที่ปุ่มสีเขียวด้านล่างนี้ครับ
ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก
- Mulholland, R. Stephen & Ahn, D. & Kreindel, Michael & Paul, Malcolm. (2012). Fractional Ablative Radio-Frequency Resurfacing in Asian and Caucasian Skin: A Novel Method for Deep Radiofrequency Fractional Skin Rejuvenation. Journal of Cosmetics, Dermatological Sciences and Applications. 02. 144-150. 10.4236/jcdsa.2012.23029.
- Hellman, Judith. (2016). Long Term Follow-Up Results of a Fractional Radio Frequency Ablative Treatment of Acne Vulgaris and Related Acne Scars. Journal of Cosmetics, Dermatological Sciences and Applications. 06. 100-104. 10.4236/jcdsa.2016.63013.
- Fitzpatrick RE, Tope WD, Goldman MP, Satur NM. Pulsed carbon dioxide laser, trichloroacetic acid, Baker-Gordon phenol, and dermabrasion: a comparative clinical and histologic study of cutaneous resurfacing in a porcine model. Arch Dermatol. 1996;132:469-471.
- Alster TS, Kauvar AN, Geronemus RG. Histology of high-energy pulsed CO2 laser resurfacing. Semin Cutan Med Surg. 1996;15:189-193.
- Ross EV, McKinlay JR, Anderson RR. Why does carbon dioxide resurfacing work? A review. Arch Dermatol. 1999 Apr;135(4):444-54.
- Bass LS. Rejuvenation of the aging face using Fraxel laser treatment. Aesthet Surg J. 2005 MayJun;25(3):307-9
- Graber EM, Tanzi EL, Alster TS. Side effects and complications of fractional laser photothermolysis: experience with 961 treatments. Dermatol Surg. 2008 Mar;34(3):301-5; 305-7.
- Chan NP, Ho SG, Yeung CK, Shek SY, Chan HH. Fractional ablative carbon dioxide laser resurfacing for skin rejuvenation and acne scars in Asians. Lasers Surg Med 2010 Nov 42(9):615-23.
- Hantash BM, Bedi VP, Kapadia B, Rahman Z, Jiang K, Tanner H, Chan KF, Zachary CB, In vivo histological evaluation of a novel ablative fractional resurfacing device. Lasers Surg Med. 2007 Feb;39(2):96-107.
- Hruza G, Taub AF, Collier SL, Mulholland SR. Skin rejuvenation and wrinkle reduction using a fractional radiofrequency system. J Drugs Dermatol. 2009 Mar;8(3):259-65.