นวัตกรรมแสงสลายสี “ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser)” ทางลัดแก้ปัญหา “รอยดำสิว และ รอยแดงสิว”

ปัจจุบันหลายๆท่านต้องใช้ชีวิตอย่างรีบเร่งจนอาจไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก จะดีกว่าหรือไม่ถ้าเราสามารถรักษารอยดำสิวและรอยแดงสิว ใบหน้าเนียนใสในเวลาอันรวดเร็วและรักษาพร้อมๆกันได้ โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่มีความจำเพาะกับปัญหาของท่านโดยเฉพาะ รวมทั้งมีความปลอดภัย และผ่านมาตรฐานระดับโลก (US-FDA approved)

“ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser)” ทางลัดในแก้ปัญหา “รอยดำสิว และ รอยแดงสิว ช่วยลดรูขุมขน กระตุ้นคอลลาเจนเพิ่มความเรียบเนียนในเวลาเดียวกัน” อาจเป็นคำตอบของท่าน

บทความโดย นพ.วรุตม์ คุณาฤทธิพล (หมอช้อป)
– ปริญญาโท ตจวิทยา (ผิวหนัง)
– Dermatology Clinical Observership,
Jutendo University Hospital , Tokyo
– Fellowship in Anti-Aging Medicine

รอยดำ รอยแดงสิว ต่างกันอย่างไร ?

ท่านเคยสังเกตมั้ยว่าเวลาหลังเป็นสิว ทำไมบางท่านเกิดรอยดำ บางท่านเกิดรอยแดง หรืออาจเกิดทั้งรอยดำและทั้งรอยแดงตามมาได้ ซึ่งรอยเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่เรียบเนียน ดูกระดำกระด่าง เป็นเหตุให้เราขาดความมั่นใจได้ หลายท่านอาจเคยลองผิดลองถูกรักษาด้วยตนเองแล้วดีขึ้นบ้างและไม่ดีขึ้นบ้าง อาจใช้เวลารักษานานหลายเดือนหรือหลายปี บางท่านอาจเสี่ยงไปเจอครีมที่ไม่มีอย. หรือมีสเตียรอยด์ผสมอยู่ ซึ่งช่วงแรกใช้แล้วหน้าอาจขาวใส แต่เมื่อใช้ไปสักระยะอาจเกิดสิวเห่อและรอยสิวหนักกว่าเดิมได้

รอยดำสิวมักเกิดในคนที่มีผิวคล้ำ (Fitzpatrick skin phototype scale IV, V, and VI ) ซึ่งเจอได้มากในคนเอเชียและคนไทย โดยรอยดำสิวสามารถจางหายไปได้เอง (แต่ใช้ระยะเวลาหลายเดือน เฉลี่ยประมาณ 4-6 เดือน) และอาจเจอรอยดำคู่กับรอยแดงได้

รอยแดงสิวมักเกิดในคนที่มีผิวขาว (Fitzpatrick skin phototype scale I, II, and III ) สามารถจางหายไปได้เอง (แต่ใช้ระยะเวลาหลายเดือน เฉลี่ยประมาณ 4-6 เดือน) โดยอาจเจอรอยดำคู่กับรอยแดงได้

โปรแกรมออโรร่า เลเซอร์ (Aurora Laser) เป็นนวัตกรรมแสงสลายสี มาตรฐานอเมริกา ที่สามารถรักษารอยดำและรอยแดงสิว ได้ในตัวเดียว

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) คือ อะไร ?

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) เป็นเครื่องเลเซอร์จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งถูกออกแบบสำหรับการรักษาเรื่องรอยดำ และ รอยแดงสิวโดยเฉพาะ เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการดูแลรักษาผิวหน้า ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์กรการอาหารและยา ทั้งประเทศไทย สหรัฐอเมริกา (US-FDA approved) ว่าเป็นเลเซอร์ที่มีความจำเพาะเจาะจงและมีความปลอดภัยสูงมาก ในเรื่องการดูแลรักษาผิวหน้า

โดยออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) มีการผสมผสาน 2 เลเซอร์ เพื่อทำหน้าที่ช่วยจัดการในเรื่องรอยดำ รอยแดงสิว ริ้วรอย ปัญหาเรื่องสีผิว รอยคล้ำ และแผลเป็นชนิดต่างๆ ไปพร้อมกัน

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ของ เดอะ พรีม่า คลินิกเป็นเลเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุด โดยหัวเลเซอร์สามารถปล่อยพลังงานครอบคลุมพื้นที่ทำการรักษามากขึ้น ได้พลังงานสูงขึ้น โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ คนไข้จะรู้สึกสบาย แต่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้น

จุดเด่นของออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser)

สามารถทำได้กับทุกสภาพสีผิว แม้มีสภาพผิวคล้ำ (Fitzpatrick type IV, V and VI)
ไม่เจ็บ สบาย แต่ได้ผลลัพธ์ชัดเจน
ไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด ไม่มีจ้ำเลือด ดูแลง่าย
หน้าขาวกระจ่างใส รอยต่างๆ (โดยเฉพาะรอยดำสิวและรอยแดงสิว) ลดลงตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ!!
- มีคุณสมบัติในการกำจัดเม็ดสี Melanin ทำให้รอยดำบนใบหน้าจางลง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- มีคุณสมบัติในการกำจัดเม็ดสี Oxyhemoglobin ทำให้รอยแดงบนใบหน้าจางลง ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
- มีการผสมผสาน 2 เลเซอร์ ความยาวคลื่นแสง 2 ประเภท) เพื่อช่วยส่งเสริมการออกฤทธิ์ในการรักษา แก้ได้ทั้งรอยแดง และ รอยดำในเวลาเดียวกัน
ช่วยลดฝ้า กระ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (โดยเฉพาะกระตื้น ฝ้าตื้น และฝ้าจากเส้นเลือด)
Gold Standard ในการรักษาฝ้า ซึ่งมี Fast Edge Micropulse (FEM) จะช่วยลดเมลานินที่เพิ่มจำนวนมากในฝ้าแล้ว ยังช่วยลด VGFR หรือสารกระตุ้นเส้นเลือด ทำให้ลดโอกาสเกิดการกลับมาเป็นใหม่ของฝ้า และลดฝ้าที่เกิดจากเส้นเลือดได้ดีมากอีกด้วย
สีผิวจะกลับมาสม่ำเสมอ เรียบเนียน แต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางติดผิวดีขึ้น
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และลดเลือนริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้าให้ตื้นขึ้นได้
สามารถฆ่าเชื้อ C. Acnes ต้นเหตุของสิว
ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า รูขุมขนกระชับขึ้น โดยทำให้ต่อมไขมันในชั้นผิวเล็กลง
หลังทำสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติทันที

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) รักษาอะไรได้บ้าง

3 แสง 3 กลไก ของ ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ที่ช่วยในการรักษา

แสงของ ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ที่ถูกปล่อยออกมาเป็น pulse ที่เล็กมากๆ ประมาณ 30 ns ที่ความถี่ 16 kHz กระตุ้นให้เกิดการสะสมความร้อนทีละน้อยในเส้นเลือด จึงไม่ทำให้เกิดเส้นเลือดแตกเกิดเป็นจ้ำ (purpura) ภายหลังการรักษา และไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานสูงในการรักษา ทั้งนี้ยังสามารถปรับตั้ง Duration time และ Off time ได้จึงช่วยลดการทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบได้ ช่วยให้เห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นอีกด้วย

แสงสีทอง (578 nm) สามารถถูกดูดซับได้ดีใน Oxyhemoglobin ใช้รักษาผู้ที่มีปัญหารอยโรคที่มีสีแดง ได้แก่

รอยแดงสิว (Post-Acne Erythema หรือ PAE)
สิวอักเสบ (Active Acne)
เส้นเลือดขยายบนใบหน้า (Facial Telangiectasias)
เส้นเลือดขอดที่ขา (Leg Telangiectasias)
ผิวหน้าแดงง่าย (Rosacea)
รอยแผลเป็นสีแดง (Hypererythemia Scar)
แผลเป็นนูนสีแดง (Keloid Scar)
ปานแดง (Port wine Stain)

แสงสีเขียว (511 nm)จะถูกดูดซับได้ดีใน Melanin ใช้รักษาผู้ที่มีปัญหารอยโรคที่มีสีดำ ได้แก่

รอยดำสิว และ รอยแผลเป็นสีดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation หรือ PIH)
กระตื้น (Lentigines)
กระจากแสงแดด (Solar Lentigo)
ฝ้าตื้น ฝ้าจากเส้นเลือด (Melasma)

แสงสีเลม่อน (ทองผสมเขียว) ใช้ในการรักษาในผู้ที่มีปัญหา

ฝ้า (Melasma)
ต้องการปรับให้ใบหน้าขาวใสยิ่งขึ้น (Skin Rejuvenation)
รูขุมขนกว้าง (Large Pore Size)
ติ่งเนื้อ (Seborrhoeic Keratosis , Skin Tags)
ไฝ (Mole)
รอยแตกลาย ท้องลาย(Striae)
รอยแผลผ่าตัดและรอยแผลอุบัติเหตุ (Surgical Scar)
ลดเรือนริ้วรอยตื้นๆ (Fineline Wrinkle)

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ได้ อย. ประเทศอะไร ทำแล้วหน้าจะบางหรือไม่ ?

มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยครับ เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานจาก อย.อเมริกา (US-FDA) และ มาตรฐานจากยุโรป (Europian Confoemity หรือ CE) รวมทั้งประเทศไทยครับ

เลเซอร์ไม่ทำให้ผิวหน้าบางครับ เพราะเป็นเลเซอร์ที่มีความเฉพาะเจาะจงซึ่งจะตรงเข้าไปรักษาในบริเวณที่มีปัญหาเท่านั้น จึงไม่ทำลายผิวบริเวณใกล้เคียงหรือปัญหาที่ไม่เกี่ยวข้อง สามารถรักษาได้ทุกสีผิวแม้มีสีผิวคล้ำ

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล / เว้นระยะห่างนานเท่าไหร่ ?

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ทำกี่ครั้งเห็นผล ?

Aurora Laser นั้นจะสามารถ เห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำการรักษา แต่หากต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจน หมอจะแนะนำ ดังนี้

รอยดำสิว ประมาณ 5-6 ครั้ง
รอยแดงสิว ประมาณ 5-6 ครั้ง
เส้นเลือด ไฝแดง หรือ กระที่ไม่ลึกมาก อาจทำการรักษาแค่เพียง 1-2 ครั้ง
ฝ้าตื้น ประมาณ 5-6 ครั้ง

หากรอยชัดมากหรือเป็นมานานปัญหาสิว ปัญหาผิวหมองคล้ำ และปัญหาฝ้า อาจจะต้องเข้าการรักษาต่อเนื่องอย่างน้อย 5-6 ครั้งขึ้นไป

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) เว้นระยะการทำนานประมาณเท่าไหร่ ?

เว้นระยะห่างการทำเลเซอร์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ต่อการทำหนึ่งครั้ง
ความถี่ในการักษานั้นขึ้นอยู่กับปัญหาผิวหน้าและการวินิจฉัยของแพทย์ ซึ่งแตกต่างกันในแต่ละบุคคล

ออโรร่าเลเซอร์ ช่วยเปลี่ยนผิวให้ไบร์ท หน้าใสขึ้นทันที

ออโรร่าเลเซอร์ ช่วยรักษาภาวะต่อมไขมันอักเสบ หรือ เซ็บเดิร์ม ที่มีผื่นแดง คัน ผิวลอกเป็นขุย

ออโรร่าเลเซอร์ ช่วยรักษาภาวะผิวหนังอักเสบแดงจากโรซาเชีย (Rosacea) ที่ทำให้เส้นเลือดใต้ผิวขยายตัว จนเห็นเป็นเส้นเลือดฝอยที่ใบหน้า

เตรียมตัวก่อน-หลังทำ ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ที่เดอะ พรีม่า คลินิก

เตรียมตัวอย่างไรก่อนทำออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ?

ควรหลีกเลี่ยงการโดนแดด และ กิจกรรมกลางแจ้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับการรักษา
งดขัดผิวหรือทายาที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น กรดวิตามินเอ ยาทาสิวบางประเภท (โดยเฉพาะช่วง 1 สัปดาห์แรกก่อนรักษา)
หากมีโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยาต่างๆ โดยเฉพาะยาชา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการทำเลเซอร์
ในวันที่นัดทำเลเซอร์ควรงดใช้เครื่องสำอาง ครีมบำรุงผิว ณ บริเวณผิวหนังส่วนที่จะทำเลเซอร์
ปรึกษาเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำเลเซอร์ให้เข้าใจก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์

ความรู้สึกขณะทำออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) เป็นอย่างไร เจ็บหรือไม่ ?

ไม่เจ็บครับ ก่อนให้การรักษาไม่จำเป็นต้องทายาชา (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรอยโรคและการประเมินของแพทย์)

ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) มีความปลอดภัยสูง และ ความอ่อนโยนสูง ระหว่างเข้ารับการรักษาจะรู้สึกเหมือนเข็มแตะเบาๆ ไม่รู้สึกเจ็บ คล้ายการนวดใบหน้า

Aurora Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความจำเพาะเจาะจงสูง แสงเลเซอร์จะทำลายเฉพาะเป้าหมายที่เจาะจง ไม่มีผลต่อผิวหนังปกติด้านข้าง จึงไม่ค่อยพบผลข้างเคียงเช่น แผลจ้ำเลือดและสีผิวที่เปลี่ยนไป

**ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล**

อาการหลังการรักษาเป็นอย่างไร ?

ภายหลังการรักษาอาจจะรู้สึกอุ่นและผิวมีสีชมพูเรื่อๆเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด สามารถจางหายไปได้เอง สามารถกลับไปทำงานได้เลย ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่งหน้าได้ตามปกติทันที

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังทำการรักษาด้วย ออโรร่าเลเซอร์ (Aurora Laser) ?

ภายหลังการรักษา ถ้ามีอาการแสบร้อน ควรใช้ผ้าเย็นประคบไว้ก่อนจนกว่าจะดีขึ้น
แนะนำให้หลีกเลี่ยงแดดจัดอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์หลังรักษา
ควรทายากันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าไว้ตลอดหลังรักษา (โดยเฉพาะช่วง 1 สัปดาห์แรก)
ควรทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว (โดยเฉพาะช่วง 1 สัปดาห์แรก)
งดขัดผิวหรือทายาที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว เช่น กรดวิตามินเอ ยาทาสิวบางประเภท (โดยเฉพาะช่วง 1 สัปดาห์แรก)

มากกว่าการได้เครื่องมือที่ดี คือ การมีหมอที่ใส่ใจคุณ

พบหมอช้อปทุกครั้ง หมอทำเองทุกเคส เราไม่ใช้หมอเวียน และไม่ให้พนักงานทำ จึงมีความต่อเนื่อง และ เห็นผลลัพธ์ชัดเจน
คุณหมอจะเสริมเครื่องมือและตัวยาให้เหมาะกับสภาพผิวและรอยโรคของคนไข้แต่ละราย ยิงให้ไม่จำกัดช็อตพลังงาน เต็มที่ที่สุดเท่าที่ผิวคนไข้ที่รับได้ เน้นเห็นผลเร็ว ไม่เลี้ยงไข้
นำเสนอการรักษาเฉพาะที่จำเป็น ไม่ยัดเยียดขายคอร์สอื่นที่ไม่จำเป็น แก้ไขตรงจุด และ รักษาที่ต้นเหตุ แก้ปัญหาระยะยาว
หลังรักษา จะมีเจ้าหน้าที่โทรติดตามอาการเป็นระยะ และ พร้อมให้คำปรึกษาตลอดเวลา ไม่ทิ้งเคส