Prima Lift ร้อยไหมด้วยคลื่นอัลตร้า ดึงหน้าใหม่ โดยไร้รอยแผล ไม่ต้องพักฟื้น เห็นผลทันที
เทคโนโลยีจากเกาหลี ใช้คลื่นอัลตร้าลงไปยกผิวหน้าถึงชั้นศัลยกรรมดึงหน้า แต่ไร้รอยแผล พร้อมลดเหนียง และ เติมคอลลาเจนสู่ผิว เห็นผลหลังทำทันที และ อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน
Prima Lift (พรีม่าลิฟท์) คืออะไร ?
Prima Lift คือ การดึงหน้าหรือร้อยไหมโดยไม่ต้องผ่าตัดและไม่ทำให้เกิดบาดแผล ไม่เกิดรอยเขียวช้ำ อาศัยพลังงานจากคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Micro & Macro Focused Ultrasound MMFU) ซึ่งเป็นคลื่นเดียวกับที่ใช้ในทางการแพทย์ ลักษณะของคลื่นเสียงนี้จะถูกจำกัดการปล่อยคลื่นอย่างแม่นยำ (Focused Ultrasound) เพื่อให้คลื่นส่งผ่านพลังงานขนาดเล็ก จำนวนมากลงลึกสู่ชั้นผิวชั้นสแมซ (SMAS) ซึ่งเป็นชั้นที่พยุงกล้ามเนื้อบนใบหน้า (ชั้นเดียวกับการศัลยกรรมดึงหน้า) ทำให้เกิดผลของการยกกระชับของใบหน้า หรือคำว่า Lifting นั่นเองครับ
พูดให้เข้าได้ง่ายขึ้นคือ คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ถูกโฟกัสการปล่อยพลังงานออกมาเฉพาะจุด และแต่ละจุดก็มีพลังงานสูงพอที่จะทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก SMAS ได้ครับ ซึ่ง หลักการ High Intensity Focus Ultrasound นับเป็นนวัตกรรมเดียวที่สามารถทำงานลงลึกถึงผิวหนังชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงผิว
แพทย์สามารถตั้งค่าพลังงานจากหน้าจอเครื่อง เพื่อทำการรักษาโดยการปรับคลื่นเสียงที่พอเหมาะกับสภาพผิวหนังของคนไข้แต่ละราย ทำให้เกิดความแม่นยำและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ในเวลาอันสั้นโดยการทำงานนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะในชั้น SMAS ใต้ชั้นผิว โดยไม่ส่งผลใดๆ ต่อผิวชั้นบน และในขณะทำจะรู้สึกเพียงอุ่นๆ ใต้ชั้นผิวเท่านั้น
Prima Lift with MMFU (พรีม่าลิฟท์) ต่างจาก HIFU (ไฮฟู) ทั่วไปอย่างไร ?
HIFU ทั่วไปจะส่งพลังงานในรูปแบบเดียว คือ Micro Focused ขณะที่ Prima Lift จะส่งพลังงานได้ 2 รูปแบบ คือ Micro และ Macro Focused Ultrasound หรือ MMFU
พลังงาน MMFU ทั้ง 2 รูปแบบช่วยเรื่องอะไรบ้าง
1. Micro Focused Ultrasound (ไมโครโฟกัสอัลตร้าซาวด์) สามารถลงไปใต้ผิวหนังได้ที่ระดับความลึก 1.5 mm. / 3 mm. / 4.5 mm เปลี่ยนจากพลังงาน Micro Focused Ultrasound เกิดเป็นความร้อนจุดเล็กๆระดับ 65 ถึง 70 องศาเซลเซียส ที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5 มิลลิเมตร ด้วยระยะห่างที่เท่ากัน ทำให้เกิดการหดตัว บริเวณชั้นผิวที่พลังงานลงไป ส่งผลให้เกิดการยกกระชับผิว (Tissue lifting) โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิวบริเวณข้างเคียง ซึ่งพลังงานนี้สามารถลงลึกถึงชั้นสแมซ (SMAS) ชั้นผิวที่ทำการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า นับเป็นเทคโนโลยีเดียวที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดผิว และไม่ต้องพักฟื้น
2. Macro Focused Ultrasound (แมคโครโฟกัสอัลตร้าซาวด์) พลังงานรูปแบบใหม่ที่รวมอยู่ในเครื่องเดียว มีพลังงานสูงกว่า Micro Focused Ultrasound ถึง 8 เท่า โดยมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของ Macro Thermal Focused ที่ 1 มิลลิเมตร ที่ระดับความลึก 2 mm. / 6 mm. / 9 mm. / 13 mm. สามารถสลายไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยในการกระชับผิวและสัดส่วน
MMFU (Micro & Macro Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาล่าสุด คือ Generation ที่ 3rd ของ Focused Ultrasound หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า UF3 มีความเสถียรของการปล่อยพลังงาน และสามารถปล่อยพลังงาน แบบ High peak power ด้วยเทคโนโลยี Dual engine โดยพลังงานที่ถูกปล่อยในแต่ละจุดมีความเท่า ๆ กัน และมีความสม่ำเสมอของพลังงานที่ลงสู่ใต้ผิวทุกจุด และลงลึกได้ถึงตำแหน่งที่ต้องการทำการรักษา ส่งผลให้ได้ผลการรักษาที่แม่นยำสูง และส่งผลให้ขณะทำการรักษาคนไข้รู้สึกเจ็บน้อยกว่าเทคโนโลยีอื่น ยิ่งไปกว่านั้น MMFU ยังเป็นที่ยอมรับกว่า 50 ประเทศทั่วโลก ผ่านการรับรองคุณภาพและความปลอดภัยจาก องค์การอาหารและยาของ กลุ่มประเทศยุโรป (European CE) ประเทศออสเตรเลีย (Australian TGA) ไต้หวัน (Taiwan FDA) ญี่ปุ่น (Japan FDA) เกาหลี (Korea FDA) และ ไทย (Thai FDA) เป็นต้น ดังนั้น UF3 จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูงและได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เป็นรองแค่ Ultherapy
Prima Lift with MMFU (พรีม่าลิฟท์) มีหัวยิงกี่ระดับ ช่วยอะไรบ้าง ?
แท้จริงแล้ว เครื่อง Prima Lift จะมีหัว (Tip) ส่งพลังงานลงลึกได้ถึง 7 ระดับ ในการปล่อยคลื่นได้แก่ Tip แบบตื้นและ Tip แบบลึก ดังนั้นแพทย์สามารถเลือกใช้ Tip ในแต่ละส่วนของร่างกายที่เหมาะกับแต่ละบริเวณ ด้วยความหนาของชั้นผิวแต่ละส่วนไม่เท่ากัน และการส่งพลังงานลงไปในแต่ละชั้นความลึก ก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน ดังนี้
ระดับ 1.5 และ 2 มิลลิเมตร
ส่งพลังงานไปที่ผิวหนังชั้นตื้น (Superficial Dermis) ช่วยเรื่อง กระชับรูขุมขน ริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา มุมปาก ยกหางคิ้วที่ตก ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวโดยไม่ทำอันตรายผิวด้านบน ปรับให้ผิวภายนอกให้เนียนสวยผิวใส
ระดับ 3.0 มิลลิเมตร
ส่งพลังงานไปที่ผิวหนังชั้นลึก (Deep Dermis) ช่วยเรื่อง คืนความยืดหยุ่นของคอลลาเจน และเส้นใยอีลาสติน ฟื้นฟูให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวแน่นกระชับ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวโดยไม่ทำอันตรายผิวด้านบน ปรับให้ผิวภายนอกให้เนียนสวยผิวใส
ระดับ 4.5 มิลลิเมตร
ส่งพลังงานไปที่ชั้น SMAS (ชั้นผังผืดที่รองรับเนื้อเยื่อของผิวหนัง ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า) ช่วยเรื่องการปรับรูปหน้า ช่วยลดชั้นไขมันบนใบหน้าหรือลดชั้นความหนาบนใบหน้าหรือจะช่วยให้การหดชั้นสแมส (SMAS) ช่วยในการยกกระชับ กรอบหน้าชัดเจน แก้ไขปัญหาหนังตาตก และคิ้วตก
นอกจากนี้ยังมีหัวยิงที่ความลึกระดับ 6 ม.ม. / 9 ม.ม. และ 13 ม.ม. ที่ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน และ ยกกระชับผิวชั้นลึก หรือ ผิวหนังบริเวณร่างกาย เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ท้องแขน รอบหัวเข่า เป็นต้น
ผลลัพธ์ที่ดี มาจากการได้เครื่องมือที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และ การเลือกใช้หัวทิปที่แม่นยำ เหมาะสมกับสภาพผิวของคนไข้แต่ละราย ซึ่งมาจากประสบการณ์ของแพทย์นั่นเองครับ
Prima Lift by MMFU (พรีม่าลิฟท์) เหมาะกับใครและทำบริเวณไหนได้บ้าง ?
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
ผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยไม่มาก
ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
ต้องการยกกระชับใบหน้า แต่ยังไม่อยากทำศัลยกรรม
ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
รูขุมขนกว้าง
ไขมันสะสมบริเวณแก้มทำให้รูปหน้าไม่เรียว
ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด
คิ้วตกทำให้หน้าดูเศร้า ต้องการยกแนวคิ้วให้ขึ้น
หนังตาตก
ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา (ริ้วรอยไม่มากนัก)
“…หมอใช้เทคนิคที่เรียกว่า Matrix Focus ในการออกแบบไลน์การยิงตามโครงหน้าและชั้นผิวของแต่ละบุคคล เพื่อผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ คนไข้จะรู้สึกเจ็บน้อยมาก และบางท่านก็แทบไม่รู้สึก…”
Prima Lift (พรีม่าลิฟท์) เห็นผลเมื่อไหร่ และต้องทำบ่อยแค่ไหน ?
เราจะเห็นผลหลังทำทันที 20 % !!! และจะค่อยๆเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องภายใน 60 – 90 วัน เนื่องจากร่างกายมีการกระตุ้นเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) เพื่อกระตุ้นเส้นใยอีลาสติน ฟื้นฟูให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่จากร่างกายของเราเองจึงมีความปลอดภัยสูง
และเพื่อผลการรักษาที่ดีอย่างต่อเนื่อง แนะนำให้ทำอย่างน้อย ปีละ 2 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้อย และ ปีละ 3-4 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีปัญหาค่อนข้างเยอะครับ
ผู้ที่ไม่ควรทำ และ ผู้ที่ต้องระวังก่อนทำ Prima Lift (พรีม่าลิฟท์) ?
ผู้ที่ไม่ควรทำ Prima Lift with MMFU
- ผู้ที่ผิดปกติในการรับความรู้สึกร้อนเย็น
- ผู้ที่มีบาดแผลบนใบหน้าหรือแผลเปิด
- ผู้ที่มีสิวที่รุนแรงหรือเรื้อรังบนใบหน้าหรือลำคอ
- ผู้ที่มีขดลวดโลหะ หรือการปลูกถ่ายในใบหน้าหรือลำคอ
- ผู้ที่มี Bio absorbable รากฟันเทียม
- ผู้ที่มีมีการฝังอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคภายในร่างกาย
- ผู้ที่มีโรคผิวหนังบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาบาดแผล
ผู้ที่ควรระวัง และควรแจ้งแพทย์ก่อนทำ Prima Lift with MMFU
- หญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
- เด็ก อายุต่ากว่า 18 ปี
- ผู้ป่วยที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด/ ยาต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือด (anticoagulant)
- ผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อไวรัสเริม
- ผู้ป่วยที่มีโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันตัวเองบกพร่อง
- ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของระบบหลอดเลือด หรือการแข็งตัวของเลือด
วิธีเตรียมตัวก่อนทำ และ วิธีปฏิบัติหลังทำ Prima Lift (พรีม่าลิฟท์) ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก ?
เตรียมตัวก่อนทำ Prima Lift with MMFU
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่หรือแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 วัน
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Prima Lift with MMFU
- ทาครีมบำรุงและแต่งหน้าได้ตามปกติ เพื่อบำรุงผิวที่เกิดขึ้นใหม่ให้คงอยู่ได้อย่างยาวนาน
- แนะนำให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงการล้างด้วยน้ำอุ่น-ร้อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมได้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัดและกิจกรรมกลางแจ้งหลังทำ 1-2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นตัวการในการทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว และทาครีมกันแดดค่า SPF30+ ขึ้นไปทุกเช้า
- งดสูบบุหรี่หรือแอลกอฮอล์ 2-3 วัน เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง
- งดการทรีทเมนท์ เลเซอร์ โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์