วิธีปฏิบัติตัวหลังรักษาหลุมสิว โปรแกรม Acne Scar Clear ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก
<<สำคัญมาก>> หลังการรักษาหลุมสิวในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกเป็นช่วงที่ผิวมีความบอบบางและกำลังฟื้นฟู การดูแลตัวเองช่วงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การรักษานั้นเห็นผลเร็วขึ้น และ ป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษา
1. ห้ามแผลถูกน้ำ 24 ชั่วโมง (หรือ 1 คืน) หลังจากนั้นให้ใช้น้ำเกลือเช็ดทำความสะอาดหน้าเบา ๆ ตามด้วยยาและเวชสำอางที่คุณหมอแนะนำ ทำแบบนี้ทุกเช้า-เย็น จนกว่าแผลจะแห้ง (ประมาณ 1 สัปดาห์)
ตราบใดที่แผลยังไม่แห้ง ให้ใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าเท่านั้น เช็ดทั่วหน้าเบา ๆ ห้ามเช็ดที่สะเก็ดให้หลุดออกโดยตรง รอจนกว่าวันที่สะเก็ดจะหลุดออกเองจึงหยุดใช้
ห้ามแกะสะเก็ดเด็ดขาดเนื่องจากผิวกำลังฟื้นตัว มิฉะนั้น อาจเป็นรอยดำมากกว่าเดิม น้ำเกลือมีความอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวเหมาะสำหรับผิวบอบบางหลังทำการรักษา ใช้น้ำเกลือเช็ดผิวหลังทำความสะอาด จะช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่ทำการรักษาได้รับความชุ่มชื้น และฟื้นตัวเร็วขึ้น
***งดใช้ “คลีนซิ่ง” ที่มีสารก่อการระคายเคือง เช่น Alcohol , Paraben หรือแม้แต่ Vitamin C ที่อยู่ในครีม หรือ Whitening เนื่องจากอาจทำให้ผิวระคายเคืองเกิดเป็นรอยดำมากกว่าเดิมได้ (งดใช้ประมาณ 2 สัปดาห์หลังการรักษา)
***งดใช้ “โทนเนอร์” เช็ดหน้าอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมักเกิดการระคายเคือง เช่น Alcohol , Paraben หรือแม้แต่ Vitamin C ซึ่งทำให้ผิวเกิดเป็นรอยดำมากกว่าเดิมได้ครับ (งดใช้ 2 สัปดาห์หลังทำการรักษา)
2. ทายาลดอักเสบฆ่าเชื้อ บริเวณแผล ตามที่แพทย์แนะนำ และกินยาฆ่าเชื้อจนครบตามที่แพทย์สั่ง
3. หลีกเลี่ยงแดดจัดและความร้อน 1 สัปดาห์
หากเป็นไปได้ไม่ควรโดนแดดและความร้อน 2 สัปดาห์แรก เนื่องจากผิวเราจะไวต่อแดดและความร้อนเป็นอย่างยิ่ง (แต่การรักษาไม่ได้ทำให้ผิวเราบางลง) มิฉะนั้น อาจเกิดรอยดำมากกว่าเดิมได้
4. ทามอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไป โดยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและกันแดดต้องไม่มีส่วนผสมของ Paraben, Alcohol หรือ Vitamin C
ช่วง 1 สัปดาห์แรก ผิวจะค่อนข้างแห้งและมักมีอาการคัน สกินแคร์ตัวสำคัญ คือ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ที่เติมความชุ่มชื้นล้ำลึกให้ผิว ทั้งสำหรับก่อนนอนและระหว่างวัน เมื่อหน้าชุ่มชื้นจะทำให้แผลหายได้เร็วยิ่งขึ้น
แม้จะห้ามโดนแดด อยู่แต่ในบ้าน หรือ ออฟฟิศ แต่ก็ต้องใช้ครีมกันแดดด้วยครับ สิ่งที่เราควรระวังจริง ๆ คือ รังสี UVA/UVB ซึ่งเจอในแสงแดด ดังนั้นควรงดทำงาน หรือ มีกิจกรรมกลางแจ้ง หรือ แม้แต่การขับรถ หรือ อยู่ในบ้านที่มีกระจก รังสี UV ก็สามารถทะลุเข้ามาได้ จึงต้องทาครีมกันแดดทุกวันแม้อยู่ในที่ร่ม หลังการรักษายิ่งควรทาครีมกันแดดบริเวณที่เป็นแผล เนื่องจากจะมีความไวต่อแสงเป็นพิเศษ
***งดใช้ครีมกันแดดที่มีสารก่อการระคายเคือง เช่น Alcohol, Paraben หรือแม้แต่ Vitamin C ที่อยู่ในครีม หรือ Whitening อาจทำให้ผิวระคายเคืองเกิดเป็นรอยดำมากกว่าเดิมได้
ห้ามทาครีมกันแดดทับแผลตกสะเก็ดโดยตรง แต่ให้ทาครีมที่ทางคลินิกให้ก่อนเพื่อเคลือบแผล แล้วค่อยทาครีมกันแดดทับได้
5. งดแต่งหน้า 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าสะเก็ดแผลจะหลุด
6. หลีกเลี่ยงการสัมผัส ถู แกะ เกา บริเวณแผล ควรปล่อยให้หลุดออกเองตามธรรมชาติ มิฉะนั้นอาจเกิดรอยดำ
อาการที่อาจเกิดหลังการทำ Acne Scar Clear เพื่อรักษาหลุมสิว
1) ผิวหนังบริเวณที่รักษามีอาการบวมแดงชั่วคราว อาจมีผิวลอกเล็กน้อย แห้ง คัน และมักหายไปภายใน 3-5 วัน
2) การเปลี่ยนสีของผิวหนัง (รอยแผลสีเข้มขึ้น) *** ขึ้นกับการดูแลตัวเองหลังทำ มักเป็นมากขึ้น เมื่อบริเวณที่ได้รับการรักษาถูกแสงแดดจัด และ ความร้อนจัด
3) อาการปวด แสบร้อน เหมือนหนังยางดีดระหว่างการรักษา หายไปภายใน 24 ชั่วโมง
4) ผิวหนังถลอก การหลุดลอกของผิวอาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งจะทุเลาลงภายใน 5-7 วัน
5) น้ำเหลืองซึม ตุ่มหนอง: อาจมีอาการน้ำเหลืองซึมออกมาจากบริเวณที่ทำการรักษา และอาจเป็นสะเก็ดถ้าหากแผลไม่ชุ่มชื้นพอ แต่จะหายไปภายใน 5-7 วัน โดยการใช้ความเย็นประคบ หรือ ทายาสมานแผลตามแพทย์สั่ง
6) การติดเชื้อที่บริเวณผิวหนัง ควรทายาตามแพทย์สั่ง จนกว่าแผลจะแห้ง
7) มีอาการแพ้บริเวณผิวหนังจากการใช้ผลิตภัณฑ์บนผิวหนัง
8) การเกิดสิวเห่อ: อาการของสิวอาจเห่อขึ้นได้ ในช่วงระยะเดือนแรกหลังจากการรักษา ไม่ควรบีบ กดออกเองนะครับ เพราะอาจกลายเป็นรอยแดงหรือหลุมสิวใหม่ซึ่งยากต่อการรักษาครับ ให้เข้ามากดหรือฉีดที่คลินิกดีกว่าครับ
อาหารที่ควรงดช่วง 1-2 สัปดาห์หลังทำ หรือจนกว่าแผลจะแห้ง
ของหมัก ของดอง ของดิบ เช่น ปลาร้า ปลาดิบ กิมจิ ผลไม้ดอง เป็นต้น
ชา กาแฟ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ เนื่องจากกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะทำให้แผลแห้งช้า แต่ถ้าใครทนไม่ไหวจริง ๆ ก็ของดซัก 3 วันนะครับ
อาหารเสริมกลุ่มที่จะกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด อาจทำให้แผลหายช้า เกิดรอยช้ำนาน เช่น น้ำมันปลา สารสกัดจากใบแปะก๊วย เมล็ดองุ่น (Grape seed) วิตามินซี คอลลาเจน วิตามินที่ช่วยให้ผิวขาวใส เป็นต้น