June 22, 2021

วิธีป้องกันและรักษา “รอยแดงสิว”

เคยสังเกตไหมครับว่า หลังเกิดสิว ทำไมบางคนทิ้งรอยดำ บางคนเป็นรอยแดง หรืออาจเกิดทั้งรอยดำและทั้งรอยแดง ตอนเป็นสิวก็ว่าเครียดแล้ว แต่ยังทิ้งรอยให้เครียดต่อ มิหนำซ้ำ รอยสิวอยู่นานกว่าสิวอีก ซึ่งหลายคนคงเคยลองผิดลองถูกรักษาด้วยตนเองแล้ว ดีขึ้นบ้างและไม่ดีบ้าง

วันนี้เรามารู้จักเกี่ยวกับเค้าเพิ่มมากขึ้นกันครับ เพื่อจะได้รู้วิธีป้องกัน และ รักษารอยแดงจากสิวที่ถูกวิธีกันครับ

สรรสาระโดย 👨🏻‍⚕️ นพ.วรุตม์ คุณาฤทธิพล (หมอช้อป)
– ปริญญาโท ตจวิทยา (ผิวหนัง)
– Dermatology Clinical Observership,
Jutendo University Hospital , Tokyo
– Fellowship in Anti-Aging Medicine

รอยแดงสิว หรือ Post-Acne Erythema (PAE)

รอยแดงสิวมักเกิดในคนที่มีผิวขาว (Fitzpatrick skin phototype scale I, II, and III ) สามารถจางหายไปได้เอง (แต่ใช้ระยะเวลาหลายเดือน เฉลี่ยประมาณ 4-6 เดือน) โดยอาจเจอรอยดำคู่กับรอยแดงได้

กลไกการเกิด “รอยแดงสิว” บนผิวหนัง

รอยแดงบนผิวหนังอาจมีลักษณะเป็นจุดสีแดง สีชมพู หรือแม้แต่สีม่วงบนผิวหนังชั้นตื้นหรือลึกก็ได้ ซึ่งสีเหล่านี้เกิดจากการที่การอักเสบที่ผิว (เช่น เป็นสิว โรคผิวหนังอักเสบ Rosacea) เส้นเลือดฝอยเส้นเล็กๆ(Capillaries)ใต้ชั้นผิวเกิดการอักเสบ มีการขยายตัว หรืออาจถึงขั้นถูกทำลายได้ ทำให้เม็ดเลือดแดงที่มีสีแดงไหลมารวมตัวกันเป็นปริมาณมากอยู่บริเวณที่นั้นเกิดเป็นรอยสีแดงขึ้นมานั่นเอง

ตัวอย่างเช่น เมื่อเป็นสิวแล้วเราทิ้งไว้นานไม่ได้รับการรักษา ผิวบริเวณนั้นก็มักจะทิ้งเป็นรอยแดงจากสิวได้นานยิ่งขึ้นครับ ซึ่งรอยแดงนั้นอาจมีจุดเดียว เรียงตัวกระจัดกระจาย หรือ รวมเป็นกลุ่มก้อนได้ทั้งหมดครับ

สาเหตุที่ทำให้เกิด “รอยแดง” บนผิวหนัง

ถ้ามีสภาวะที่เกิด ”การอักเสบที่ผิวหนัง” เช่น มีอาการปวด แสบคันที่ผิวหนัง นั่นอาจทำให้เกิดรอยแดงที่ผิวได้ทั้งหมดครับ เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Dermatitis / Eczema) ผิวไหม้แสบจากแสงแดด (Sunburn) โรค Rosacea  หรือแม้แต่สิว (Acne) ครับ

สิวประเภทไหนทำให้เกิด “รอยแดงสิว” ได้มากที่สุด

สิวมีหลายประเภท เช่น สิวอุดตันหัวเปิด (Open / Black head comedone)  สิวอุดตันหัวปิด (Close / White head comedone) สิวอักเสบนูนแดงขึ้นมาเล็กน้อย (Papule) สิวอักเสบมีหัวหนองให้เห็นชัดเจน (Pustule)

แต่สิวที่มักทำให้เกิดรอยแดงสิวมากที่สุดนั่นคือสิวประเภท  สิวอักเสบชนิดสิวหัวช้าง สิวซีสต์ (Nodule / Cystic Acne)” นั่นเอง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นสิวสีแดง ขนาดใหญ่ ปวด กดเจ็บ บางครั้งอาจมีหนองคั่งอยู่ข้างในปริมาณมากร่วมด้วยได้ ซึ่งถ้าเป็นสิวลักษณะนี้ไม่ควรทิ้งไว้นาน และห้ามบีบ กด หรือ แกะสิวเอง เพราะอาจทำให้การอักเสบเพิ่มมากขึ้นจนทำให้เส้นเลือดฝอยไต้ผิวถูกทำลายทิ้งเป็นรอยแดงขนาดใหญ่ได้นาน หรือซ้ำร้ายอาจเกิดเป็นหลุมสิวตามมาได้ซึ่งรักษาได้ยากกว่า

ดังนั้นหากมีสิวชนิด “สิวอักเสบชนิดสิวหัวช้าง สิวซีสต์ (Nodule / Cystic Acne)” แปลว่าวรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการรักษา เราจะได้ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดรอยแดงจากสิวครับ

วิธีป้องกัน “รอยสิว” บนผิวหนัง

1. งดบีบแกะสิว

การบีบสิวที่รุนแรงและไม่ถูกวิธี เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดรอยดำและรอยแผลเป็นจากสิว (Acne Excoriee)

2. หลีกเลี่ยงแสงแดด และ ทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ

เนื่องจากรังสี UV ในแสงแดดจะกระตุ้นการเพิ่มของเม็ดสีเมลานิน ทำให้รอยดำเข้มชัดขึ้น

3. พบแพทย์ทันทีหากมีสิวปริมาณมาก

เมื่อเป็นสิวมากขึ้น เราไม่ควรทิ้งไว้นาน เพราะผิวจะอับเสบมากขึ้น รอยจะดำนานหรือสีเข้มมากขึ้น ทำให้รักษายากขึ้นหรือต้องใช้เวลารักษานานขึ้น

วิธีการรักษา “รอยแดง” จากสิว

1. ยาทา/ครีมทาผิว (Topical Medications) มักมีส่วนผสมของ

ไฮโดรคอร์ติโซน เป็นสเตียรอยด์แบบอ่อน ออกฤทธิ์ลดการอักเสบของผิว

คำเตือน: ควรอยู่ในความควบคุมของแพทย์ ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานจนเกินไปเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงของยาได้

วิตามินซี ออกฤทธิ์ทำให้ผิวขาวใส สามารถลดการเกิดรอยแดงจากรังสี UVB จากแสงอาทิตย์ ที่กระตุ้นให้รอยสีแดงชัดขึ้นได้

ไนอะซินาไมด์ อีกชื่อคือ Vitamin B3 นั่นเอง ช่วยลดการอักเสบของผิว ทำให้รอยแดงจางลง ลดการอักเสบของ“สิวอักเสบชนิดสิวซีสต์ (Cystic Acne)” ได้ และยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว

2. เลเซอร์ลดรอยแดงสิว

การรักษารอยแดงจากสิวด้วยการทายามักไม่ค่อยได้ผล โดยปกติมักจะต้องรักษาด้วยเลเซอร์ลดความแดง เป็นการรักษาที่มีความปลอดภัยสูงและทำให้รอยแดงสิวจางลงได้เร็ว (เช่น รอยแดงสิวปกติใช้เวลา 4-6 เดือนกว่าจะหาย หากเลเซอร์อาจเหลือเพียง 2-3 เดือนก็ดีขึ้น แล้วแต่บุคคล)เรามักใช้เลเซอร์ลดรอยแดงสิวในกรณีที่ใช้ยาทาหรือครีมทามานานแล้วไม่ดีขึ้นครับ

คำแนะนำ

 

1. สำหรับผู้ที่เป็นรอยแดง รอยดำจากสิว การรักษารอยสิวควรเริ่มต้นไปพร้อมๆ กับการรักษาสิว เพราะตราบใดที่สิวยังไม่หาย และยังมีสิวใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ก็อาจมีรอยสิวใหม่ได้ครับ 

2. การหลีกเลี่ยงแสงแดดและการทาครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย (Hypoallergenic) และชนิดที่ไม่ก่อให้เกิดสิว (Non-comedogenic) ร่วมกับการทายา หรือ เลเซอร์ มีส่วนช่วยให้รอยแดงจางลงเร็วขึ้น

ซึ่งเลเซอร์สำหรับรักษารอยแดงสิวนั้นมีหลายชนิดมาก ครั้งหน้าเราจะมาเจาะลึกกันว่า เลเซอร์ชนิดใดที่รักษารอยสิวได้ดีที่สุดกันครับ

Share on facebook
Share on Facebook
Share on twitter
Twitter

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก

  1. Davis, E. C., & Callender, V. D. (2010). Postinflammatory hyperpigmentation: a review of the epidemiology, clinical features, and treatment options in skin of color. The Journal of clinical and aesthetic dermatology3(7), 20–31.
  2. Callender, V. D., St Surin-Lord, S., Davis, E. C., & Maclin, M. (2011). Postinflammatory hyperpigmentation: etiologic and therapeutic considerations. American journal of clinical dermatology12(2), 87–99. https://doi.org/10.2165/11536930-000000000-00000
  3. Patil, U. A., & Dhami, L. D. (2008). Overview of lasers. Indian journal of plastic surgery : official publication of the Association of Plastic Surgeons of India41(Suppl), S101–S113.
  4. Goldman L, Wilson RG, Hornby P, Meyer RC. Radiation From a Q-Switched Ruby Laser.J Invest Dermatol1965,44(1):69–71
  5. Anderson RR, Parrish JA. Microvascular Can be selectively Damaging Using Dye Lasers. A Basic Theory and Experimental Evidence in Human Skin.Lasers Surg Med1981, 1268–76
  6. Anderson RR, Farinelli W, Laubach H, et al. Selective photothermolysis of lipid-rich tissues: a free electron laser study. Lasers Surg Med. 2006;38(10):913–919.
  7. Levine VJ, Geronemus RG. Adverse effects associated with the 577 and 585 nanometer pulsed dye laser in the treatment of cutaneous vascular lesions: a study of 500 patients. J Am Acad Dermatol. 1995;32:613–617.
  8. Lee, S., Lee, T., Kim, H., Kim, J., Eun, H., & Kim, R. (2013). A practical comparison of Copper Bromide Laser for the treatment of vascular lesions. Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society. IEEE Engineering in Medicine and Biology Society. Annual International Conference2013, 3765–3768. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610363
  1. Farkas, Jordan & Hoopman, John & Kenkel, Jeffrey. (2013). Five Parameters You Must Understand to Master Control of Your Laser/Light-Based Devices. Aesthetic surgery journal / the American Society for Aesthetic Plastic surgery. 33. 10.1177/1090820X13501174.
  1. Britt, C. J., & Marcus, B. (2017). Energy-Based Facial Rejuvenation: Advances in Diagnosis and Treatment. JAMA facial plastic surgery, 19(1), 64–71. https://doi.org/10.1001/jamafacial.2016.1435
  1. Shah, S., & Alster, T. S. (2010). Laser treatment of dark skin: an updated review. American journal of clinical dermatology, 11(6), 389–397. https://doi.org/10.2165/11538940-000000000-00000
  1. Yoon, Ho & Lee, Dong-Hun & Kim, Sun & Park, Kyoung & Youn, Sang Woong. (2008). Acne erythema improvement by long‐pulsed 595‐nm pulsed‐dye laser treatment: A pilot study. The Journal of dermatological treatment. 19. 38-44. 10.1080/09546630701646164.

Leave a comment