“เลเซอร์ฝ้า” เหมือนกัน แต่ทำไมผลลัพธ์ต่างกัน
เรามาอัพเดทเลเซอร์ฝ้าปี 2564 กันครับว่าเค้าใช้เลเซอร์แบบไหน รักษาฝ้ากันบ้าง แต่ละวิธีมีจุดเด่นจุดด้อยยังไงบ้างครับ
—————————————
1️. ไอพีแอล (IPL: Intense Pulse Light)
ลักษณะ: เป็นการใช้ “คลื่นแสง
” ที่มีช่วงคลื่นแสงกว้างที่แบ่งเป็นช่วง ๆ ตามความยาวคลื่นเริ่มตั้งแต่ 420 – 1,200 นาโนเมตร (ทำให้เกิดแสงหลากหลายชนิด) โดยแพทย์จะปรับให้คลื่นแสงจับกับตัวเม็ดสีเมลานินที่เป็นสาเหตุของฝ้าและทำลายเม็ดสีเหล่านั้นทำให้ฝ้าดูจางลง
จุดด้อยของ IPL คือ รักษาได้เพียงรอยโรคที่ผิวหนังชั้นตื้น จึงอาจตอบสนองได้ดีเฉพาะ “ฝ้าตื้น (Epidermal Melasma) แต่ไม่ค่อยตอบสนองกับฝ้าลึก (Dermal Melasma)“
—————————————
2️. คิวสวิทช์เลเซอร์ (Q-Switched Laser)
ลักษณะ: เป็นเลเซอร์ที่ปล่อย “พลังงานแสงที่ทำให้เกิดความร้อน
” เพื่อไปทำลายเม็ดสีใต้ผิวหนังทั้งชั้นตื้นและลึก รวมไปถึงสามารถลบรอยสักได้ ทำให้เม็ดสีในบริเวณที่กำจัดนั้นแตกตัวออก แล้วเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมเม็ดสีเหล่านี้และย่อยสลายขับเป็นของเสียออกจากร่างกาย
แต่ข้อเสียคือ ความร้อนเหล่านั้นมักไปทำลายเนื้อเยื่อที่ดีบริเวณข้างเคียง และมักทำให้เกิดรอยดำ หลังยิงเลเซอร์ตามมาได้ 
—————————————
3️. พิโค่เลเซอร์ (Picosecond Laser)
ลักษณะ: เลเซอร์ชนิดใหม่ล่าสุด
ที่ปล่อย “พลังงานคลื่นเสียง (Photoacoustic) 
”ด้วยความถี่สูงมาก ทำให้เกิดแรงดันมหาศาลจนทำเม็ดสีเมลานิน เกิดการแตกตัวออกเป็นอณูละเอียด และถูกเม็ดเลือดขาวมาเก็บกินซากเม็ดสีให้จางลงในที่สุด
จุดเด่นของพิโค่ คือ เป็นเลเซอร์ที่ลงไปทำลายเม็ดสี เฉพาะที่ผิดปกติเท่านั้น ไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง อีกทั้งสามารถยังลบฝ้า กระ จุดด่างดำ รวมไปถึงรอยสักได้ “ทุกเฉดสี”
อีกจุดเด่นของเค้า คือ สามารถปรับสีผิวให้กระจ่างใส ลดริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
ทำให้ผิวเรียบเนียน ซึ่ง Q-Switch Laser ทำไม่ได้ 
ที่สำคัญ คือ ใช้ระยะเวลาการรักษาเร็วกว่า 2-3 เท่า
จุดด้อย คือ ด้วยความเป็นเทคโนโลยีใหม่ จึงราคาค่อนข้างสูงกว่าเลเซอร์ชนิดอื่นนั่นเอง
—————————————
สรุป
แม้ว่าการรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์จะเห็นผลเร็วที่สุด แต่ก็ใช่ว่าเลเซอร์จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของทุกคน ส่วนใหญ่ต้องใช้หลาย ๆ วิธีรวมกัน 
ทางที่ดี คือ ปรึกษาหมอ เพื่อค้นหาสาเหตุ รวมถึงเลือกชนิดของเลเซอร์ ให้เหมาะกับรอยโรคแต่ละคน
นอกจากนี้ เครื่องเลเซอร์ต้องได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ไทย และสากล ที่สำคัญ ต้องเป็นหมอยิงเลเซอร์ให้เท่านั้น
เพราะหากไม่ใช่หมอ อาจได้รอยไหม้ทับรอยฝ้าขึ้นมาอีกชั้นนะครับ 
.
สาระความงามที่เกี่ยวข้อง
