ใครเกิดมาไม่มีสิวถือเป็นลาภอันประเสริฐอย่างหนึ่ง แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีลาภนี้ครับ (เหมือนซื้อหวยให้ถูกรางวัลที่ 1 นั่นแหละครับ)😅

ฉะนั้นไม่ต้องน้อยเนื้อต่ำใจ…เรามาหาทางเคลียร์มันออกจากชีวิตอย่างถูกวิธีกันดีกว่า

แค่กดสิว / บีบออก ไม่ได้ทำให้หาย‼️ หนำซ้ำกดผิดชีวิตเปลี่ยน เพราะอาจหน้าพัง ติดเชื้อ ทิ้งรอยดำ และ เป็นหลุมสิวได้ 😱

ก่อนอื่นเราต้องแยกประเภทสิวก่อนครับ ถึงจะเห็นแนวทางรักษา หลัก ๆ สิวมี 2 ประเภทครับ คือ

 

1️. สิวไม่อักเสบ (Non-Inflammatory Acne) 🥺

👉 รักษาด้วยการ “กดสิว” ได้

👉 สิวไม่อักเสบ หรือสิวอุดตัน มีทั้งสิวไม่มีหัว สิวเสี้ยน ฯลฯ

👉 เกิดจากการอุดตันของรูขน เรียกว่า comedone (ductal hypercornification) มี 2 ชนิด คือ สิวหัวเปิด และ สิวหัวปิด

1.1 สิวอุดตันหัวเปิด (Open / Black head comedone) ตรงยอดมีรูเปิดและมีก้อนสีดำอุดอยู่

✅กดสิวได้

1.2 สิวอุดตันหัวปิด (Close / White head comedone) จะนูนขึ้นมาจากผิวเหมือนเป็นไขมันอุดตันแต่ไม่มีรูเปิด เป็นตุ่มกลมเล็กแข็งสีขาวจะเห็นชัดขึ้นเมื่อดึงผิวหนังให้ตึงหรือโดยการคลำ

✅ควรทายาละลายหัวสิวก่อนกด นาน 3-4 สัปดาห์ จึงกดสิวได้

……………………………………………..

2️. สิวอักเสบ (Inflammatory Acne) 🤒

👉 มักรักษาด้วยการ “ฉีดสิว”

👉 สิวอักเสบ คือ สิวที่เกิดอาการบวมแดง และกดแล้วเจ็บ แบ่งเป็น

2.1) สิวอักเสบ นูนแดงขึ้นมาเล็กน้อย (Papule)

✅ฉีดสิวได้

2.2) สิวอักเสบ มีหัวหนองให้เห็นชัดเจน (Pustule)

✅แนะนำเป็นยาทาในกลุ่มยาฆ่าเชื้อ หรือ ยาละลายหัวสิวเพื่อลดการอักเสบของสิว

❌ไม่แนะนำให้ฉีดสิว

2.3) สิวอักเสบ หรือสิวหัวช้าง สิวซีสต์ (Nodule / Cyst)

รุนแรงที่สุด 😲 เพราะคอลลาเจนถูกทำลายอาจกลายเป็นหลุมสิว ควรพบแพทย์เพื่อรักษาเร่งด่วน

✅ควรให้แพทย์พิจารณาว่าฉีดสิวได้หรือไม่

1. การกดสิว 🤏

ไม่ใช่การใช้มือบีบสิวนะครับ หมอไม่แนะนำให้บีบ เพราะเสี่ยงติดเชื้อ ทิ้งรอยดำนาน และอาจเป็นหลุมสิวถาวรได้

👉การกดสิวเป็นการใช้เครื่องมือแพทย์กด ทำให้สิวอุดตันหัวเปิดหลุดออกมา ซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันในรูขุมขน แต่ถ้ายังเป็นสิวอุดตันหัวปิดควรทำการละลายหัวสิวก่อนเพื่อให้กดง่ายขึ้น
……………………………………………..
⁉แล้วเราจะกดสิวเมื่อไหร่ 🧐
✅กดสิวเมื่อเป็น “สิวอุดตัน” ครับ
❌ห้ามกดในสิวอักเสบ
……………………………………………..
⁉การ กดสิวบ่อย ๆ อันตรายหรือไม่ 🧐
✅ไม่เป็นอันตรายในระยะยาวครับ
⚠️ไม่ใช่วิธีที่ทำให้สิวหายขาด เป็นเพียงวิธีที่ทำให้หัวสิวที่เราไม่ชอบหลุดออกได้เร็วทันทีครับ
……………………………………………..
⁉ผลข้างเคียงของการกดสิว คืออะไร 🧐
❌หากกดผิดวิธี หรือ ใช้เครื่องมือที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดรอยดำสิวมากขึ้น หรือ เกิดการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
❌อาจทำให้โพรงขนเสียหายการกลับมาเป็นสิวอุดตันได้ง่ายขึ้น
……………………………………………..
⚠️ข้อแนะนำ
1. การกดสิวนั้นควรทายาละลายหัวสิวก่อนกด นาน 3-4 สัปดาห์ เพื่อให้หัวสิวนิ่มถูกกดออกได้ง่าย ไม่เจ็บ และป้องกันการเกิดรอยดำหลังกดสิว หากกดแรงหรือกดผิดวิธี
2. ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญ และ ใช้เครื่องมือที่สะอาด ไม่ควรซื้อไม้มากดเอง เพราะอาจเกิดการติดเชื้อหรือเป็นรอยดำเพิ่มมากขึ้นได้

2. การฉีดสิว 💉

เป็นการลดการอักเสบของสิวโดยแพทย์จะทำการฉีดตัวยาไปตรงสิว โดยสิวจะค่อย ๆ ยุบ และหายเจ็บในเวลา 2-3 วัน

👉มักใช้ในสิวชนิด “สิวอักเสบ” ครับ
👉อย่างไรก็ตามเมื่อสิวยุบแล้วเราต้อง “กดสิวหรือใช้ยาทาสิว” ร่วมด้วย เพราะการฉีดสิวแค่ช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่อักเสบยุบตัวลง แต่หัวสิวยังอยู่ (ซึ่งช่วงที่สิวกำลังปวดอักเสบเรายังไม่ควรไปกดออก เพราะอาจทำให้ปวดมากและทำให้หนองกระจายมากขึ้นได้)
👉ถ้าเราไม่ฉีดแล้วปล่อยให้สิวอักเสบไว้นานๆ หนองจะกินผิวหนังบริเวณนั้น ทำให้กลายเป็นหลุมสิวได้😱
……………………………………………..
⁉เราจะฉีดสิวเมื่อไหร่ 🧐
✅เราจะฉีดในรายที่ตุ่มสิวอักเสบที่เกิดขึ้นไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อลดการอักเสบและลดการเกิดแผลเป็น
……………………………………………..
⁉การฉีดสิวบ่อยๆ อันตรายหรือไม่🧐
✅ไม่เป็นอันตรายในระยะยาวครับ เพราะโดส (Dose) ของยาที่ฉีดมีปริมาณน้อยมาก
……………………………………………..
⁉ผลข้างเคียงของการฉีดสิว คืออะไร 🧐
❌หากใช้ตัวยาความเข้มข้นไม่เหมาะสม หรือฉีดในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับขนาดของสิวจะทำให้เกิดรอยบุ๋มได้🕳
✅หากเกิดรอยบุ๋มนั้นไม่จำเป็นต้องรักษาอะไร ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 เดือน เนื้อจะตื้นขึ้นมาเองได้ครับ

📌สรุป📌

“การกดสิว” และ “การฉีดสิว” นั้น ไม่เป็นอันตรายครับ😊 แต่เป็นการรักษาสิวที่ปลายเหตุเท่านั้น!!! เหมือนเราปวดหัวแล้วกินยาแก้ปวด ซึ่งแก้ไม่ตรงจุด

การรักษาสิวที่ถูกต้องควรหาสาเหตุของโรคก่อนเสมอ เช่น เป็นสิวจากฮอร์โมน สิวจากการใส่หน้ากากอนามัย สิวจากเครื่องสำอาง หรือ จากสาเหตุอื่น ๆ อย่างไรก็ดี การรักษาสิวแนะนำว่าควรเริ่มจากการทายาก่อนเสมอ (หากเป็นสิวไม่มาก) และอาจรับประทานยา (หากเป็นสิวมาก) ซึ่งควรอยู่ในความดูแลของแพทย์

นอกจากนี้ เราควรปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์ร่วมด้วย คือ ต้องช่วยกันทั้งหมอและคนไข้ครับเราจะได้มีผิวที่เนียนหล่อสวยไร้สิวกันครับ

🤔 หากใครมีข้อสงสัย เช่น เป็นสิวมานาน รักษามาทุกวิธี แต่ก็ไม่หายซักที ก็ลองเข้ามาปรึกษาหมอได้ที่เดอะ พรีม่า คลินิก ครับ ยินดีให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ😊

Share on facebook
Share on Facebook
Share on twitter
Twitter

สาระความงามที่เกี่ยวข้อง

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก
1. www.cmaj.ca/lookup/suppl/doi:10.1503/cmaj.140665/-/DC1
2. http://www.dst.or.th/files_news/Acne_2010.pdf (แนวทางการดูแลรักษาโรค Acne สมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศไทย)
3. Zaenglein, Andrea & Pathy, Arun & Schlosser, Bethanee & Alikhan, Ali & Baldwin, Hilary & Berson, Diane & Bowe, Whitney & Graber, Emmy & Harper, Julie & Kang, Sewon & Keri, Jonette & Leyden, James & Reynolds, Rachel & Silverberg, Nanette & Gold, Linda & Tollefson, Megha & Weiss, Jonathan & Dolan, Nancy & Sagan, Andrew & Bhushan, Reva. (2016). Guidelines of care for the management of acne vulgaris. Journal of the American Academy of Dermatology. 74. 10.1016/j.jaad.2015.12.037.
4. Oon, H. H., Wong, S. N., Aw, D., Cheong, W. K., Goh, C. L., & Tan, H. H. (2019). Acne Management Guidelines by the Dermatological Society of Singapore. The Journal of clinical and aesthetic dermatology, 12(7), 34–50.
5. https://www.oatext.com/antimicrobial-peptides-novel…