Therrima (เทอริม่า) เทคโนโลยีย้อนวัยไร้เข็ม ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก ศรีราชา

เทคโนโลยีจากเกาหลี ผ่าน อย. ทั้งไทย และ เกาหลี หนึ่งเดียวในชลบุรี ในการ ลดรอยย่น ยกผิวหย่อน สลายไขมัน ไม่เจ็บ ไม่ต้องใช้ยาชา เห็นผลหลังทำทันที ทำครั้งเดียวอยู่ได้นาน 3-6 เดือน หมอทำเองทุกเคส ยิงพลังงานไม่จำกัดช็อต

บทความโดย  นพ. วรุตม์ คุณาฤทธิพล (หมอช้อป)

  • ปริญญาโท วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาตจวิทยา (ผิวหนัง) สำนักวิชาเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
  • Dermatology Clinical Observership,Jutendo University Hospital , Tokyo
  • Fellowship วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาการชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

เลือกเนื้อหาที่ต้องการอ่าน

เมื่ออายุที่เพิ่มมากขึ้น หลาย ๆ ท่านจะเริ่มมีริ้วรอยมาทั่วใบหน้า ผิวพรรณที่เคยกระชับก็เริ่มหย่อนคล้อยไปตามวัย ซึ่งถือเป็นเรื่องกังวลใจของทุกคนเลยก็ว่าได้

แม้ว่าเราจะทาครีมทุกวันปัญหาการมีริ้วรอย และ ความหย่อนคล้อยก็ยังคงอยู่ ปัญหาริ้วรอยและใบหน้าที่เหี่ยวย่นเหล่านี้แม้จะไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพแต่กลับส่งผลต่อความมั่นใจ

ซึ่งแม้เราจะใช้ครีมที่มีส่วนผสมเข้มข้นหรือราคาแพง การดูดซึมสารของผิวหนังก็มีข้อจำกัดอยู่ เช่น ระดับความลึกที่สารถูกดูดซึมอาจจะลงไปไม่ถึงชั้นของผิวหนังที่มีปัญหาจริงทำให้แก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุดสักเท่าไหร่

ชั้น Stratum Corneum (ชั้นขี้ไคล)  เป็นชั้นที่มีชั้นไขมันกั้นอยู่และมีความหนามาก ทำให้ครีมผ่านไปได้ยากถ้าไม่มีตัวช่วย ยิ่งอายุมากการผลัดผิวที่ชั้นนี้จะน้อยลง ทำให้ชั้นขี้ไคลหนาขึ้นและลดการดูดซึมของครีมที่ผิว และทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นตามมาได้  

สารหลายตัวควรจะไปออกฤทธิ์ที่ผิวชั้นบนด้านล่าง แต่หลายครั้งสารออกฤทธิ์ก็ไม่สามารถซึมผ่านลงไปได้จากชั้นขี้ไคลที่หนา จึงเป็นที่มาว่าทำไมการครีมที่มีราคาแพงหรือความเข้มข้นสูงเพื่อหวังผลให้ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยดีขึ้นแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เห็นผลที่ดีนั่นเอง 

โดยในปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยลดริ้วรอยและยกกระชับผิวได้ตรงจุดและรักษาได้ในเวลาเดียวกันได้โดยไม่ต้องผ่าตัด โดยอาศัยหลักการส่งพลังงานลงไปได้ลึกที่ผิวหนังชั้นล่างหรือชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นที่อยู่ของเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้เราไม่มีริ้วรอยและความหย่อนคล้อย หนึ่งในนั้นก็คือ “Therrima (เทอริม่า)” นั่นเอง

Therrima (เทอริม่า) คืออะไร ?

“Therrima(เทอริม่า)” คือ การใช้เครื่องมือทางการแพทย์ส่งคลื่นพลังงานวิทยุ เพื่อลดริ้วรอยเล็ก ๆ (Fine Line Wrinkle) และกระชับผิวหน้า (Skin Tightening) โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ทำให้เกิดบาดแผล และไม่เกิดรอยเขียวช้ำ โดยอาศัยพลังงานจากคลื่นพลังงานวิทยุความเข้มข้นสูงชนิดขั้วเดี่ยว (Monopolar Radio Frequency Therapy) ซึ่งเป็นคลื่นทางการแพทย์ชนิดหนึ่งที่มีความปลอดภัยสูง

การรักษาด้วย “Therrima (เทอริม่า)” จะทำให้ผิวแน่นขึ้น ลดความหย่อนย้วยของผิว และ ริ้วรอยขนาดเล็กจางลงได้ทันที (เกิดจากความร้อนทำให้คอลลาเจนเกิดการหดตัวทันที จึงทำให้ผิวแน่น ยกกระชับหลังทำทันที 20-30%) และ ค่อย ๆ กระตุ้นร่างกายโดยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง คือ กระตุ้นให้คอลลาเจนเกิดการสร้างและจัดเรียงตัวใหม่ จึงทำให้เมื่อเวลาผ่านไป ริ้วรอยเส้นเล็กเริ่มหายไป ผิวยิ่งแน่นและกระชับขึ้น (ผลลัพธ์นี้ใช้เวลาประมาณ 1 – 3 เดือนหลังทำ)

แพทย์สามารถตั้งค่าพลังงานจากหน้าจอเครื่อง เพื่อทำการรักษาโดยการปรับคลื่นพลังงานที่พอเหมาะกับสภาพผิวหนังของคนไข้แต่ละราย ทำให้เกิดความแม่นยำและผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพในเวลาอันสั้นโดยการทำงานนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะใต้ชั้นผิว โดยไม่ส่งอันตรายต่อผิวชั้นบน และในขณะทำจะรู้สึกเพียงอุ่น ๆ ใต้ชั้นผิวเท่านั้น

Therrima (เทอริม่า) หลักการทำงานคืออะไร ?

“Therrima (เทอริม่า)”  เป็นการรักษาโดยใช้พลังงานจากคลื่นพลังงานวิทยุความเข้มข้นสูงชนิดขั้วเดี่ยว (Monopolar Radio Frequency Therapy หรือ Monopolar RF) ลักษณะของคลื่นนี้จะถูกกระจายลงไปใต้ชั้นผิวเป็นแนวกว้าง ทำให้เกิดความร้อนประมาณ 40-55 องศาเซลเซียส ความลึกประมาณ 2-3 มิลลิเมตรกระตุ้นได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis)  โดยไม่ทำร้ายผิวหนังชั้นบน จึงมีความปลอดภัยสูงมาก

โดยตัวคลื่นจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสติน เพื่อเร่งการเกิดคอลลาเจนใหม่มาทดแทนของเดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพ ในขณะเดียวกันก็สามารถทำให้เซลล์ไขมันหดเล็กลงได้ จึงทำให้ผิวหน้าเต่งตึงและกระชับขึ้น ริ้วรอยเส้นเล็กจางลงทันที 

ด้วยหลักการการส่งผ่านความร้อนแบบ “Therrima (เทอริม่า)”  นี้ทำให้เกิดการหดตัวได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ความลึกประมาณ 2-3 มิลลิเมตร โดยปล่อยพลังงานเป็นแนวกว้างทำให้ครอบคลุมบริเวณที่ต้องการรักษาได้ทั้งหมด และที่สำคัญยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นๆ อีกใน 1-2 เดือน และเห็นผลอย่างชัดเจนต่อเนื่อง เป็นเวลาสองถึงสามเดือนขึ้นไป รวมถึงจะได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อทำซ้ำ อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี

สำหรับความร้อนที่ส่งผ่าน คลื่นจะเป็นอุณหภูมิที่ 40 – 55 องศาเซลเซียส ซึ่งอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจนของผิวบริเวณชั้นบน

Therrima (เทอริม่า) ส่งพลังงานลงได้ลึกเท่าไหร่ ?

“Therrima (เทอริม่า)”  สามารถส่งพลังงานความร้อนทำให้เกิดการหดตัวได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ความลึกประมาณ 2-3 มิลลิเมตร โดยปล่อยพลังงานเป็นแนวกว้างเพื่อให้เกิดความร้อนสะสม (Bulk Heating)ทำให้ครอบคลุมบริเวณที่ต้องการรักษาได้ทั้งหมด

การส่งพลังงานลงไปที่ชั้นนี้ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของตาข่ายพังผืดในชั้นหนังแท้(Dermis)  ส่งผลให้โครงสร้างผิวปรับทิศทางไปในแนวที่ต้องการ ผิวหน้าจะยกกระชับขึ้นและริ้วรอยเส้นเล็กๆจะจางลงทันทีตั้งแต่ครั้งแรกของการส่งพลังงาน ผลลัพธ์จากการทำจะค่อยเป็นค่อยไปอย่างเป็นธรรมชาติ และมีประสิทธิภาพสูงสุดประมาณ 1-3 เดือนหลังการรักษา

Therrima (เทอริม่า) เหมาะกับใครและทำบริเวณไหนได้บ้าง ?

  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป
  • ผิวหน้าหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยมาก ทาครีมมานานก็ไม่ดีขึ้น
  • ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด
  • ต้องการยกกระชับใบหน้า แต่ยังไม่อยากทำศัลยกรรม
  • มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ
  • ลดเลือนริ้วรอย
  • ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ
  • รูขุมขนกว้าง
  • ไขมันสะสมบริเวณแก้มทำให้รูปหน้าไม่เรียว
  • ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด
  • คิ้วตกทำให้หน้าดูเศร้า ต้องการยกแนวคิ้วให้ขึ้น
  • หนังตาตก
  • ปัญหาริ้วรอยรอบดวงตา เช่น ริ้วรอยใต้ดวงตา หางตา ระหว่างคิ้ว หรือ แม้กระทั่งหน้าผาก แต่กลัวเจ็บ ยังไม่อยากใช้การรักษาชนิดใช้เข็มหรือการผ่าตัด เช่น ฟิลเลอร์ โบทูลินั่มท็อกซิน(ฉีดโบ) เป็นต้น
  • ปัญหาริ้วรอยเส้นเล็กรอบมุมปาก ที่มีรอยย่นเวลายิ้ม
  • ปัญหาผิวที่ยับ ผิวที่ไม่เรียบตามร่างกาย เช่น ผิวย่นบริเวณหน้าท้องหลังการตั้งครรภ์ การลดน้ำหนักเร็วทำให้ผิวหย่อนคล้อยไม่กระชับ (เช่น หน้าท้อง ใต้ท้องแขน เป็นต้น)
  • ปัญหาริ้วรอยเส้นเล็กบริเวณคอ
  • เหมาะสำหรับบริเวณที่ต้องเคลื่อนไหวบ่อย แต่ต้องการ ความเป็นธรรมชาติ เช่น หัวตา ใต้ตา มุมปาก ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม

วิธีปฏิบัติ หรือ วิธีเตรียมตัวก่อนทำTherrima (เทอริม่า) ?

วิธีปฏิบัติ หรือ วิธีเตรียมตัวก่อนทำTherrima (เทอริม่า)

  • ควรดูแลสุขภาพให้พร้อมสมบูรณ์ด้วยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ

  • งดสูบบุหรี่ และ งดดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน

  • งดทานยาละลายลิ่มเลือด เช่นแอสไพริน หรือ วิตามินที่อาจทำให้เลือดออกได้ง่าย 5-7 วัน ก่อนทำการรักษาเพราะอาจทำให้เกิดการช้ำได้

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เนื่องจากจะช่วยเอื้อต่อการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่เป็นไปได้ด้วยดี

วิธีปฏิบัติหลังทำTherrima (เทอริม่า)

  • หลีกเลี่ยงแดดจัดและความร้อนหลังทำ 1-2 สัปดาห์ ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ

  • ควรทาครีมบำรุงผิวเพื่อบำรุงผิวที่เกิดขึ้นใหม่ให้คงอยู่ได้อย่างยาวนาน

  • หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดในกลุ่มพาราเซตามอลได้

  • ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรงๆ เพราะอาจทำให้เกิดอาการบวมได้

  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ 2-3 วัน เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

ปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางไลน์

รีวิวการรักษาด้วยโปรแกรม Therrima (เทอริม่า) ที่ เดอะ พรีม่า คลินิก

หลังทำเทอริม่า (Therrima) ด้านซ้าย ริ้วรอยเล็ก ๆ หายไป ผิวหน้าแน่น ละเอียดขึ้น ยกกระชับขึ้นทันที

หลังทำเทอริม่า (Therrima) 1 เดือน ไขมันลดลง หน้าเด็กขึ้น หน้ายกกระชับอย่างเป็นธรรมชาติ

เคสนี้มีปัญหาริ้วรอยแห่งวัย หลังทำเทอริม่า (Therrima) 1 เดือน ริ้วรอยใต้ตาจางลง ผิวแน่นกระชับขึ้น สีผิวเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนเล็กลง

ดูรีวิวเพิ่มเติม

แนะนำโปรแกรมรักษาที่เกี่ยวข้อง

ดึงหน้าชลบุรี

อัลเทอราปี (Ultherapy) ดึงหน้าใหม่ ดันผิวแน่น

-click-

เทอริม่า ทำคู่ พรีม่าลิฟท์ ผลลัพธ์ x2

-click-

Thermage flx

เทอร์มา (Therma FLX+) กระชับผิว หน้าเล็ก ผิวเด้ง

-click-

ขอบคุณแหล่งอ้างอิงจาก

  1. Weiss, Robert & Weiss, Margaret & Munavalli, Girish & Beasley, Karen. (2006). Monopolar radiofrequency facial tightening: a retrospective analysis of efficacy and safety in over 600 Journal of drugs in dermatology : JDD. 5. 707-12.
  2. Manoj T. Abraham, Grigoriy Mashkevich, Monopolar Radiofrequency Skin Tightening, Facial Plastic Surgery Clinics of North America,Volume 15, Issue 2,2007,Pages 169-177,ISSN 1064-740
  3. Dayan E, Burns AJ, Rohrich RJ, Theodorou S. The Use of Radiofrequency in Aesthetic Surgery. Plast Reconstr Surg GlobOpen.2020Aug17;8(8):e2861.doi:10.1097/GOX.0000000000002861. PMID: 32983755; PMCID: PMC7489578.
  4. Levy AS, Grant RT, Rothaus KO. Radiofrequency Physics for Minimally Invasive Aesthetic Surgery. Clin Plast Surg. 2016 Jul;43(3):551-6. doi: 10.1016/j.cps.2016.03.013. Epub 2016 May 12. PMID: 27363769.
  5. Pritzker RN, Robinson DM. Updates in noninvasive and minimally invasive skin tightening. Semin Cutan Med Surg. 2014 Dec;33(4):182-7. doi: 10.12788/j.sder.0120. PMID: 25830251.
  6. Wollina U. Treatment of facial skin laxity by a new monopolar radiofrequency device. J Cutan Aesthet Surg. 2011 Jan;4(1):7-11. doi: 10.4103/0974-2077.79178. PMID: 21572674; PMCID: PMC3081495.
  7. El-Domyati, Moetaz & el-Ammawi, Tarek & Medhat, Walid & Moawad, Osama & Brennan, Donna & Mahoney, My & Uitto, Jouni. (2011). Radiofrequency facial rejuvenation: Evidence-based effect. Journal of the American Academy of Dermatology. 64. 524-35. 10.1016/j.jaad.2010.06.045
  8. Agarwal S, Krishnamurthy K. Histology, Skin. [Updated 2020 Jul 3]. In: StatPearls [Internet]. Treasure Island (FL): StatPearls Publishing; 2020 Jan-. Available from: https://www.ncbi.nlm.nih.gov/books/NBK537325/